ช่างภาพสัตว์ป่าชั้นนำของเมืองไทย มีผลงานตีพิมพ์ต่อเนื่องกว่า 18 ปีที่ผ่านมา อาทิ อนุสาร อสท., นิตยสาร Advanced Thailand Geographic , นิตยสารสารคดี , นิตยสาร Nature Explorer,นิตยสาร เที่ยวรอบโลก และหนังสือหัวธรรมชาติอีกมากมาย
บารมี เดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพสัตว์ป่าและธรรมชาติในหลายประเทศ แต่เมื่อเขาจะจัดนิทรรศการ เขากลับมองมาที่สัตว์สัญชาติไทย เพื่อให้คนไทยได้ร่วมรับรู้ว่าไทยยังคงมีธรรมชาติที่งดงาม ยังมีที่ๆสัตว์ป่ายังอยู่ได้อย่างมีอิสระเสรี แม้ว่าคนในเมืองอาจจะไม่เคยเห็นสัตว์ชนิดนั้นตัวเป็นๆ แต่กับการได้เห็นภาพถ่ายของพวกมัน ได้อ่านเรื่องราวของพวกมัน เท่านี้ก็อาจทำให้คนรู้จักและเมื่อรู้จักก็จะนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้อง ความรักและพร้อมที่จะปกป้องพวกมันและถิ่นอาศัยของพวกมัน บางครั้งอาจไม่ต้องเห็นแต่ขอให้ได้ร่วมรับรู้ว่าบ้านเรายังมีป่าและในป่ายังมีพวกมันอาศัยอยู่ก็พอ
“ผมเชื่อเสมอมาว่างานถ่ายภาพคืองานศิลปะ งานศิลปะที่สร้างสรรค์ไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่คู่กับงานศิลป์คือแรงบันดาลใจ ในการเดินทางเข้าไปในพื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติ แรงบันดาลใจของผมคือ “ธรรมชาติ” ความหลากหลายของป่าเขาในบ้านเรานั้นน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้แหล่งธรรมชาติใดใดในมุมโลก “จากขุนเขา จรดแนวประการัง” จากความสูงจรดความลึก ทุกๆระดับไม่ว่าจะสูงกว่าน้ำทะเลหรือต่ำกว่าล้วนมีความหมาย ในอ้อมกอดธรรมชาติ มากมายด้วยนกนานาพันธุ์ พฤกษาสวยแปลกตา ป่าไม้หลายนิเวศน์ ปลาหลากชนิด ดงปะการังสุดลูกหูลูกตา ในบางพื้นที่เล็กๆอาจมากมายด้วยแมลงและผีเสื้อปีกสวยที่เราอาจไม่เคยพบเห็นมาตลอดชีวิต ในราวป่าเป็นที่ซ่อนไพรของสัตว์ป่าทั้งเล็กและใหญ่ ภายในผืนป่าที่กว้างใหญ่ยังมีอะไรให้ค้นหาเสมอ สิ่งต่างๆเหล่านี้เราสามารถเข้าไปสัมผัสได้ด้วยตนเอง หากแต่ต้องใช้เวลาและความสนใจใส่ใจ ค่อยๆเรียนรู้กฎเกณฑ์ของป่า และเมื่อเราได้ย่างเท้าก้าวเข้าไปในอ้อมกอดของธรรมชาติแล้ว ธรรมชาติมักจะเปิดโอกาสให้เราได้เห็นความงดงามของสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่ซุกซ่อนอยู่ในเหลี่ยมเขาหรือมวลน้ำสีคราม”
บารมี เต็มบุญเกียรติ
เกิดที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2518 ชีวิตช่วงมหาลัยเริ่มเที่ยวป่าและถ่ายภาพ หลงรักในความงามของธรรมชาติ จึงอยากเก็บบันทึกภาพต่างๆ เหล่านั้นไว้ เริ่มถ่ายภาพจริงจังช่วงที่เข้าชมรมถ่ายภาพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
เมื่อเรียนจบจึงเริ่มก้าวแรกในอาชีพ “ช่างภาพสารคดี” ซึ่งเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ การถ่ายภาพธรรมชาติทุกแขนง ทั้งทางอากาศ ในเขาสูงป่าลึก ไปจนจรดผืนทรายใต้สมุทร ชื่นชอบชีวิตลึกลับมากสีสันในแนวปะการัง นก พรรณไม้และถ่ายทอดภาพพฤติกรรมของสัตว์ป่าที่หาดูยาก
ผลงาน
15 ปีบนเส้นทางสายธรรมชาติ โดยเริ่มงานครั้งแรกที่นิตยสารหัวธรรมชาติ Advanced Thailand Geographic ในปี 2541 ประจำกองบรรณาธิการอยู่ร่วม 5 ปี ก่อนออกมาเป็นช่างภาพอิสระ จากนั้นได้ร่วมงานกับนิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง อนุสารอสท. นิตยสารสารคดี นิตยสาร Anywhere และอีกหลายๆ เล่ม
ปี 2547 กลับเข้าประจำกองบรรณาธิการของ Nature Explorer แต่ด้วยเหตุที่อยากจะทำงานให้นานขึ้น เพื่อพัฒนามุมมองให้กับผลงานการเขียนและถ่ายภาพ จึงออกมารับงานเป็นช่างภาพอิสระเต็มตัวอีกครั้งเพื่อ เดินทางตามใจตัวเองและตามงานที่ได้รับ โดยมีห้องทำงานเป็นผืนป่าใหญ่และท้องทะเลกว้าง ผ่านการทำงานและเป็น
บรรณาธิการภาพให้หนังสือหลายเล่ม
ปี 2548 เริ่มต้นบันทึกภาพชีวิตสัตว์ป่าจริงจัง โดยติดตามบันทึกภาพกวางผา สัตว์ป่าสงวนที่หายากของเมืองไทย เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตที่น่าอัศจรรย์ของพวกมันโดยใช้เวลาติดตามบันทึกภาพ 3 ปี กับ 3 ยอดดอยคือดอยอินทนนท์ ดอยหลวงเชียงดาวและดอยม่อนจอง ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่อง มหัศจรรย์สี่ขาแห่งผาสูง ตีพิมพ์ในนิตยสาร สารคดี เล่ม 281 ปีที่ 24 เดือน กรกฎาคม 2551และยังคงติดตามไปถ่ายภาพกวางผาทุกๆปีจนถึงปัจจุบัน
ปี 2552 เป็นที่ปรึกษาทางธรรมชาติให้ บริษัท กรีนเอเชีย ถ่ายทอดงานสารคดีธรรมชาติในมิติของภาพเคลื่อนไหว
ปี 2556 เป็นหนึ่งในช่างภาพของ กรีนเอเชีย โปรดักชั่น ที่สร้างสรรค์รายการ “พินัยกรรมธรรมชาติ”ทางช่อง TBBS , และสารคดี WILD THAILAND ทางช่องสารคดี Nat Geo WILD
หนังสือพิเศษ
หนังสือ ถือกล้องท่องทะเลลึก
คู่มือปลาทะเลไทย เล่ม 1-3
หนังสือดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ผืนป่ามรดกโลก
หนังสือป่ามรดก
หนังสือมรดกทะเลไทย อาณาจักรแห่งสรรพชีวิต
หนังสือมรดกไทย มรดกโลก
หนังสือคู่มืออันดามัน เล่ม 1-4 เป็นต้น
หนังสือ Floods Affected Victim 2010
หนังสือ ภัยพิบัติ ความทรงจำและความหวัง พลังน้ำใจในมหาอุทกภัย 2554
รางวัล
รางวัลประเภทภาพดิจิทัล ชนะเลิศประเภทสัตว์ป่า รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร จากโครงการประกวดภาพถ่าย “สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ ครั้งที่17”
รางวัลที่หนึ่ง ประเภทสัตว์ จากการประกวดภาพถ่าย“สุดยอดช็อตเด็ด:ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย ครั้งที่ 1”
ปัจจุบัน
เป็นช่างภาพสัตว์ป่าหนึ่งในไม่กี่คนของเมืองไทย และเริ่มต้นจับงานบันทึกภาพสารคดีเคลื่อนไหว ยังคงเดินทางออกเก็บภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวจากป่าให้คนในเมืองได้ร่วมรับรู้
เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Hanuman Photos และกลุ่ม 10 FOTOS กลุ่มช่างภาพสารคดีที่มุ่งเน้นสะท้อนแง่มุมต่างๆทั้งธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม โดยมีปรัชญาในการทำงานว่า “เรายึดมั่นที่จะรังสรรค์โลกที่ดีกว่าด้วยภาพถ่าย”
เมื่อจินตนาการถูกเปลี่ยนมาเป็นภาพ กล้องคืออุปกรณ์ที่ใช้หยุดภาพของบางห้วงเวลาเอาไว้ ความจริงที่มากความหมาย ถูกขยายออกมาเป็นภาพ จากการเดินทางนับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งเดินทางมากเท่าไหร่ ธรรมชาติก็เปิดโอกาสให้ได้ร่วมรับรู้และเข้าใจทุกความมหัศจรรย์ที่ซุกซ่อนอยู่ในผืนป่า สิ่งสำคัญในภาพทุกๆใบคือองค์ประกอบภาพ ตามมาด้วย สีสัน แสงเงา เรื่องราว บรรยากาศ ที่ช่วยส่งเสริมให้สัตว์ในภาพโดดเด่น ทิวทัศน์ในภาพงดงาม เพราะองค์ประกอบภาพทำให้เราดูภาพงดงามลงตัว สีสันทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวา แสงเงาช่วยขับให้เราเห็นมิติที่ซ่อนอยู่ในภาพ เรื่องราวทำให้ภาพมีความหมาย บรรยากาศทำให้มุมมองที่คุ้นชินเปลี่ยนไป มันทำให้เราสามารถมองอดีตที่ผ่านมาได้ชัดเจน มันทำให้ผมหลงรักการถ่ายภาพธรรมชาติ และอยากหยุดเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นภาพกลับมาดูทุกครั้งไป แน่นอนความทรงจำอาจจะดีกว่าในหลายมิติ แต่ภาพก็เป็นตัวกระตุ้นให้ความทรงจำบางอย่างที่เราหลงลืมในลิ้นชักความทรงจำถูกค้นพบ การได้ถ่ายทอดสารจากธรรมชาติให้หลายๆคนได้ร่วมรับรู้ ได้เข้าใจและได้รัก ทำให้ผมมีความสุข ผมมีความเชื่อเสมอมาว่าภาพสามารถถ่ายทอดให้คนสามารถรักสัตว์ที่ไม่เคยเห็นได้ รักถิ่นอาศัยของพวกเขาได้ ภาพหลายๆภาพสร้างจิตสำนึกและความรู้ได้ และมันจะนำไปสู่ความรัก บางครั้งการปกป้องป่าและรับรู้ว่าในป่ามีสัตว์อาศัยอยู่โดยที่ไม่เคยเห็นพวกมัน อาจจะมีค่ามากกว่าการได้เห็นพวกมันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ถิ่นอาศัย
ตั้งแต่รู้จักกล้องตัวแรกเกือบยี่สิบปีที่ผ่านไป กล้องทุกตัวนอกจากจะบันทึกความจริงที่เกิดขึ้น บันทึกเหตุการณ์ตรงหน้า มันยังทำหน้าที่บันทึกความฝันของผมไปด้วยพร้อมๆกัน