Fury

“การลงทัณฑ์อันเป็นอาชญากรรมของ ฟริทซ์ ลัง”

หากใครคนหนึ่งพูดกับเราว่า “เขาพร้อมที่จะตาย เพื่อความตายของเขาจะนำพาให้ชีวิตอื่นๆตายตามไปด้วย คำถามหรือความน่าฉงนใจที่เกิดขึ้นแทบจะในทันทีก็คือ ทำไมเขาจึงมีความคิดที่โหดร้ายเช่นนั้น ?

ด้วยความโกรธแค้น ด้วยความเกลียดชัง หรือด้วยเป้าหมายใดกันแน่? หากมองผ่านกรอบของความคิดร่วมสมัย เราอาจตีความไปได้ว่า
ความคิดดังกล่าวอาจจะเปลี่ยนเป็นการก่อการร้ายแบบพลีชีพอย่างใดอย่างหนึ่งชนิดที่ไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าเราขยายความต่อในรายละเอียดว่า ความตายที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นๆในความหมายนี้ไม่ได้มาจากการลงมือทำร้ายของเขาโดยตรง ทว่าเป็นความตายที่ชอบธรรม ซึ่งมาจากบทลงโทษของตัวบทกฏหมายขั้นรุนแรง

ทั้งหมดเริ่มฟังดูเป็นข้อปัญหาที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และความซับซ้อนอันเดียวกันนี้เองเป็นที่มาของ Fury (1936) ภาพยนตร์ที่พูดถึงชายคนหนึ่ง ซึ่งยอมที่จะใช้ความตายของตัวเองสังเวยแด่ความตายของอีก 22 ชีวิต เพื่อเป็นการแก้แค้น

Fury เป็นผลงานของฟริทซ์ ลัง (Fritz Lang) นักทำหนังชาวยุโรปในยุคหนังเงียบที่อพยพลี้ภัยมายังประเทศอเมริกา ลังได้ชื่อในเรื่องของการคลี่คลายขยายด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ ผลงานที่ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักก่อนหน้านั้นได้แก่ Metropolis (1928) ซึ่งผลงานชิ้นนี้ถูกนำกลับมาฉายใหม่ในบ้านเราครั้งหนึ่ง หลังจากที่สตาร์วอร์ กลายเป็นกระแส หากเนื้อหาของ  Metropolis เป็นปรัชญาเกี่ยวกับจิต และไม่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามอวกาศแต่อย่างใดเลย หรือภาพยนตร์เรื่อง M (1931) ที่พูดถึงฆาตกรฆ่าเด็ก ซึ่งนำแสดงโดยเพเทอร์ ลอร์ นักแสดงดวงตาปูโปนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นี่เป็นงานในยุคที่ลังยังทำงานในเยอรมันให้กับสตูดิโออูฟ่าและไอออนซึ่งเป้นบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่ลังก่อตั้งขึ้นเอง

Fury นับเป็นงานกำกับชิ้นแรกของลัง สำหรับฮอลลีวูด โดยลังได้นำเสนอเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์ที่เกิดขึ้นในอเมริกา เนความน่าละอายในประวัติศาสตร์ของประเทศที่ได้ชื่อว่า เสรี ว่ากันว่าในครึ่งศตวรรษก่อนที่หนังเรื่องนี้จะสร้างขึ้น มีคนที่ถูกรุมทำร้ายโดยประชาชนชาวอเมริกัน เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 6,000 คน

โจ วิลสัน (สเปนเซอร์ เทรซี) กำลังเดินทางไแต่งงานกับคู่หมั้นของเขา แคเธอรีน แกรนทื (ซิลเวีย ซิดนีย์) หลังจากที่ทำงานสร้างฐานะขึ้นมาจนเป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันเล็กๆ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเขาถูกจับกุมในข้อหาเป็นโจรลักพาตัว โจ วิลสัน ไป เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ เราคงนึกภาพความโกรธเกรี้ยวของคนหมู่มากออกได้ไม่ยาก การรุมประชาทัณฑ์ในบ้านเราเองก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในภาพข่าว และผลจากการใช้กฏหมู่ในทุกรูปแบบก็มักจะมีคนบาดเจ็บ เสียเลือดเนื้อ หรือถึงขั้นเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

โจ วิลสัน ผู้บริสุทธิ์รอดตายจากการบุกวางเพลิงเผาโรงพักของชาวบ้านอย่างปาฏิหาริย์ สำหรับทางการเขาคือคนตายผู้เสียชีวิตไปในเหตุการณ์รุนแรงครั้งนั้น แคเธอรีนผู้ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับสติปลาสนาการไป เพราะแม้แต่เธอก็เชื่ออย่างแน่วแน่ว่า โจ วิลสัน ได้จากเธอไปในกองเพลิงอย่างแน่นอนแล้ว

โจได้กลับไปยังชิคาโก เพื่อขอความช่วยเหลือจากน้องทั้งสองของเขา ความช่วยเหลือจากน้องทั้งสองของเขา ความช่วยเหลือในที่นี้ก็คือการเอาคนที่กระทำผิดมาดำเนินคดี แต่เพื่อให้การดำเนินคดีกับคนเหล่านั้นบรรลุสู่จุดหมายสูงสุดของการแก้แค้น หรือเพื่อนำเอาชีวิตของคนที่ทำลายชีวิตของเขาไปสู่ตะแลงแกง เขาจำเป็นที่จะต้องแสดงเป็นคนตาย หรือคนที่หายสาบสูญไปจากโลกนี้

โจใช้เงินทั้งหมดที่มีในการว่าจ้างทนายผู้เก่งกาจ และการต่อสู้ในชั้นศาลก้มีแนวโน้มว่าจะยุติลงด้วยการระบุโทษของผู้ที่เป็นแกนนำ การประชาทัณฑ์ถึง 20 คน แต่ไม่ทันที่การไต่สวนจะไปสู่จุดสิ้นสุด โจ วิลสัน ก็ปรากฏตัวขึ้นในศาล การปรากฏตัวของเขามีตวามหมายต่อ 20 ชีวิตนั้น เพราะด้านหนึ่งหมายถึงการปลดปล่อยคนเหล่านั้นไปจากโทษถึงตาย และอีกด้านหนึ่ง เขาปลดปล่อยชีวิตของเขาเองจากความตาย การสาปสูญไปจากโลก หรือแม้แต่ผู้หญิงที่เขารัก

แน่นอนเป็นที่วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่านี่ไม่ใช่ตอนจบที่แท้จริงของเรื่องราวที่ควรเป็น ฮอลลีวูดไม่อาจยอมรับด้านมืดที่ฟริทซ์ ลัง พยายามคลี่ขยายออกมาทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามโน๊ตตัวสุดท้ายที่แผ่วเบาของดนตรีแห่งโทสะนี้ อาจทำให้เรามองเห็นหรือเข้าใจความเป็นจริงในจิตใจของมนุษย์ในอีกหลายแง่มุม ความกริ้วโกรธซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางของผลงานชิ้นนี้เป็นสิ่งที่มีอยู่ในคนทุกคน เราสามารถที่จะโกรธ โดยไม่ต้องอ้างถึงสิทธิใดๆ และเราสามารถที่จะแสดงออกว่าเราโกรธ โดยที่ความโกรธของเรานั้นไม่ได้ไปทำลายชีวิตหรือทรัพย์สินของใคร นี่คือขอบเขตของความโกรธในโลกความเป็นจริงหรือสังคมที่เราอยู่

หากความโกรธของคนหมู่มากกลับเนอีกเรื่องหนึ่ง มันมักไม่มีเป้าหมายในตัวเองที่ชัดเจน หลายครั้งมันคือการระเบิดของอารมณ์ที่ไร้ทิศทางและการควบคุม ซึ่งการรุมประชาทัณฑ์ก็เป้นผลผลิตจากการบันดาลโทสะที่ว่านี้

TEXT : ลิลิธ

You may also like...