เรื่องราวในหนังเกิดในช่วงยุค 1948-1951 ของประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงหลังสงครามโลกที่หนุ่มสาวต่างใฝ่ฝันถึงชีวิตนอกกรอบ มีอิสระ ได้ผจญภัย เดินทางไกลไปยังที่ต่างๆแบบไร้จุดหมาย เนื้อเรื่องสร้างจากนิยายชื่อเดียวกันของ แจ็ค เคอรูแเอ็ก
ที่อ้างอิงถึงผู้คนในชีวิตจริงอย่าง นีล แคสซาดิ กวีขบถแห่งยุค ลูแอนด์ แฮนด์เดอร์สัน และ แคโรรีน แคสซาดิ ภรรยาทั้งสองของเขา
วอลเตอร์ ซัลเลส ที่เคยกำกับหนังแนวเดียวกันอย่าง The Motorcycle Diaries ได้รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยดึงเอา แซม ไรลีย์,การ์เรตต์ เฮดลันด์,คริสเตน สจ๊วต มาแสดงนำ รวมถึงได้ เคิร์สเตน ดันสต์ กับ วิกโก้ มอร์เทนเซ่น ร่วมสมทบ โปรเจกค์นี้ถือเป็นหนังที่สร้างจากวรรณกรรมที่ถูกจับตา เพราะโครงการล่มไปหลายรอบ ซึ่งบท ดีน มอริอาร์ตี้ เคยได้รับการวางตัวว่าจะเป็นของ มาร์ลอน แบรนโด จนถึง แบรด พิตต์
On the Road เล่าถึงชีวิตของ ซัล พาราไดซ์ (แซม ไรลีย์) นักเขียนหนุ่มไฟแรงที่หลงรักการเดินทาง พร้อมที่จะเดินเท้าไปบนทางหลวง โบกรถไปกับคนแปลกหน้า ทำงานเป็นกรรมกรในไร่ หลังงานศพของพ่อ ชีวิตเขาเคว้งคว้างพอสมควร กระทั่งในงานปาร์ตี้ เพื่อนของเขาแนะนำให้รู้จักกับ ดีน มอริอาร์ตี้ (การ์เรตต์ เฮดลันด์) หนุ่มเจ้าสำราญจอมต้มตุ๋น ผู้ใช้ชีวิตไปวันๆโดยไม่ทำงานทำการ เขาหาเลี้ยงชีพโดยการลักเล็กขโมยน้อย แต่กลับมี แมรีลู (คริสเตน สจ๊วต) สาวสวยคู่นอนที่พร้อมจะติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง ซัล หลงรัก แมรี่ ลู ผิดกับ ดีน ที่ไม่ค่อยแยแสเธอ อันที่จริงเข้าไม่เคยสนใจอะไรบนโลกนอกจากตัวเอง
ดีน มีคนรักอยู่แล้ว คามีลล์ (คริสเตน ดันสท์) คือสาวใจกว้างที่ปักหลักรอคอยเขา ทว่า ดีน กลับไม่เคยอยู่กับเธอนานๆเลย ในหนังเผยให้เห็นชีวิตประจำวันของคนหนุ่มสาวในยุคนั้นที่มีเพียง ปาร์ตี้ในคลับ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ อ่านหนังสือ พี้ยา ฟังเพลงแจ๊ส และฟรีเซ็กส์ วันแล้ววันเล่า จุดนี่สร้างความน่าเบื่อในหนังพอสมควรสำหรับผู้ที่ไม่ชื่นชอบแนวนี้
ซัล ถูกดึงให้เข้าไปในขบวนการหนุ่มสาวเสรี ทว่าเขาไม่ได้เตลิดถึงขั้นมีเซ็กส์กับเพศเดียวกันหรือร่วมเซ็กส์หมู่ได้อย่างหน้าตาเฉยเหมือน ดีน อย่างมากสุดก็แค่ลักเล็กขโมยน้อย เขายังมีเป้าหมายในการเป็นนักเขียน การเดินทางให้อะไรหลายอย่างแกเขา โดยเฉพาะทริปเราสามคนที่ ซัล ดีน และ แมรี่ท่องไปในทวีปอเมริกาด้วยกัน เราไม่อาจระบุความสัมพันธ์ของคนทั้งสามได้ จะว่าเพื่อก็ไม่ใช่จะว่าคนรักก็ไม่เชิง บางมุมหนังยังทำให้คนดูมองว่า ซัล กับ ดีน เป็นคู่เกย์กันด้วยซํ้า
หนังนำเสนอทั้งแนว Roadmovie และ Coming of age โดยในความไร้แก่นสารของตัวละครในเรื่องที่เดินทางไปยังที่ต่างๆและพูดคุยกับผู้คนมากมาย แฝงไว้ด้วยสาระกับการตั้งคำถามถึงความหมายของชีวิตไว้มากมาย ซัล เติบโตขึ้น ผิดกับ ดีน ซึ่งยังคงอยู่จุดเดิม เขายืนกรานใช้ชีวิตโลดโผนโจนทะยาน ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป สุดท้าย ดีน ก็พบว่าจากที่เคยทิ้งทั้งเพื่อนรักและคนรัก บทสรุปกลับกลายเป็นว่าเขาต่างหากที่ถูกทุกคนทิ้งให้อยู่ในโลกเก่าใบเดิม
แซม ไรลีย์ ทำได้ดีในบท ซัล พาราไดซ์ เขามี เสน่ห์มีบุคลิกของการเป็นนักเขียน ขณะที่ การ์เรตต์ เฮดลันด์ ได้แสดงฝีมือการแสดงแบบเต็มที่ในบทที่เด่นที่สุดของเรื่อง ถ่ายทอดอารมณ์ถึง(โดยเฉพาะสายตาในฉากการกลับมาเจอกันอีกครั้งในตอนจบ) สมกับที่เขาประกาศไม่รับงานถึง2ปีเพื่อเล่นหนังเรื่องนี้ส่วน คริสเตน สจ๊วต ก็สามารถฉีกคาแรกเตอร์เดิมๆจากหนังเรื่องอื่นที่เคยเล่นมาก่อนหน้าได้
ด้าน วิกโก้ มอร์เทนเซ่นแม้จะได้ออกจอน้อยแต่กลับเป็นจอมขโมยซีนอย่างแท้จริงในบทนักเขียนรุ่นใหญ่ตัวละครตัวนี้ดูลึกลับน่าค้นหามาก สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือการถ่ายทอดภาพภูมิประเทศแบบทะเลทรายออกมาได้สวยงามของ วอลเตอร์ ซัลเลส และเพลงเก่าๆที่ใช้เข้ากับเนื้อเรื่องดี On the Road เป็นหนัง 18+ มีฉากเซ็กส์โชว์เนื้อหนังมังสาหลายตอน ตัวละครเสพยากันแทบจะทุกคน จึงต้องดูแบบมีวิจารณญาณพอสมควร
อันที่จริงหนังไม่ได้สอนอะไรคนดูเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้มีการบอกว่าถูกหรือผิด เพียงแต่มีการตั้งคำถามในชีวิตบ้างเล็กน้อย เป็นคำถามที่ไม่ได้จริงจังอะไร เหมือนที่เราหลุดปากออกมาในวงเหล้า และพร้อมที่จะหลงลืมไปในไม่กี่นาที อยู่ที่ผู้ชมแต่ละคนมากกว่าว่าจะมองเห็นอะไรในการสำรวจชีวิตของคนหนุ่มสาวในยุคนั้น
ติดตามต่อได้ที่ : http://cyberbird.exteen.com/20130418/on-the-road-3
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)
จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์