แม้วงการหนังไทยจะมีมานานหลายสิบปี เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ยังคงยํ่าอยู่กับที่คือแนวหนังที่ไม่เปิดกว้างนัก ภาพยนตร์ทำเงินทั้งหลายมีเพียง หนังตลก หนังผี และ หนังรักเท่านั้น
แม้จะมีผู้กำกับหลายคนหาญกล้าทำหนังแนวดราม่า แนวสืบสวน ออกมาบ้าง แต่เกือบทั้งหมดล้มเหลวในแง่ของรายได้ จะมีกล่องไว้ปลอบใจบ้างก็ไม่กี่เรื่อง
ส่วนตัวผมเป็นคนชอบดูหนังแนวสืบสวน และไม่ค่อยพลาดหนังสืบสวนไทยที่เริ่มมีมาให้ชมบ้าง ถึงจะน้อยนิดเพียงปีละเรื่องก็ตาม สารวัตรหมาบ้า คือเรื่องแรก (อาจเป็นเรื่องเดียว) ในปีนี้ของผม แค่ชื่อก็ห่ามแล้ว โปรเจกต์ของ ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม บุตรของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิมยุคล หรือ ท่านมุ้ย
ความน่าสนใจนอกจากหนังแหวกแนวแล้ว ยังถือว่าเป็นหนังตำรวจ ที่ฝั่งฮอลลีวู้ดเรียกว่า Cop Drama ไม่กี่เรื่องของไทยที่ผ่านมาพอจะเทียบเคียงได้กับ ฝนตกขึ้นฟ้า และ ศพไม่เงียบ แน่นอนว่าสองเรื่องที่ผ่านมาทำรายได้น้อยอย่างน่าใจหายทั้งที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์พอสมควร จึงนับเป็นความกล้าอย่างยิ่งของ คุณชายอดัม กับ ค่ายหนังที่ยอมออกทุนให้
สารวัตรหมาบ้า กล่าวถึงตัว สารวัตรวสันต์ (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) นายตำรวจนิสัยดุดัน เลือดร้อน ต้องนำทีมจับตัวคนร้ายในปิดคดีฆาตกรรมเด็ก โดยมี จ่าทอง (โน้ต เชิญยิ้ม) ลูกน้องคู่ใจ กับ ผู้หมวดนลิน (คริสตัล วี) ตำรวจสาวมือใหม่ไฟแรง คอยให้ความช่วยเหลือ
ขณะที่ พล.ต.ต.ประพันธ์ (หนึ่ง ชลัฏ ณ สงขลา) เพื่อนนายตำรวจที่ได้ดิบได้ดีใหญ่โตในสายงานบริหารคอยหาเรื่องเอาผิด สารวัตรวสันต์ กับพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายๆอย่าง ทั้ง ชอบกินเหล้า ทำลายข้าวของ ซ้อมผู้ต้องหา ไปจนถึงวิสามัญคนร้าย ซึ่งสารวัตรวสันต์ถือว่ามีชนักติดหลังมากมายจากการทำคดีโดยไม่สนใจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ด้านสารวัตรวสันต์ ก็ไม่พอใจ พล.ต.ต.ประพันธ์ ที่เคยพันพันกับภรรยา(ป๊อก ปิยธิดา)ของเขามาก่อน ทั้งคู่จึงเป็นเหมือนคู่กัดกันตลอด และสารวัตรวสันต์ก็มักทะเลาะกับภรรยาเรื่องนี้ประจำ ต่อมาเมื่อสารวัตรวสันต์สืบคดีจนเกือบจะจับตัวฆาตกรได้แล้วพวกเขากลับต้องเจอเหตุการณ์อันน่ากลัว เพราะเหยื่อรายถัดกลับกลายเป็นครอบครัวของสารวัตรวสันต์เสียเอง
บทหนังเก็บงำความลับได้ดี ถึงจะมีช่องโหว่หลายจุดในแง่ของความสมจริง ความเก่าของสิ่งต่างๆในเรื่องเป็นความตั้งใจที่ล้มเหลว (ตั้งแต่โปสเตอร์) เมื่อมีความใหม่ผสมปนเปจนดูมั่วไปหมดจนกลายเป็นหนังกลางเก่ากลางใหม่ หากเลือกที่จะทำเป็นหนังพีเรียดไปเลยอาจจะดีกว่านี้ การเล่าเรื่องกระโดดไปกระโดดมาระหว่างปัจจุบันกับอดีตยังไม่ปะติดปะต่อ
หนังมีความเป็นแนวฟิล์มนัวร์(หนังที่ดิบ เถื่อน รุนแรง) แต่ก็มีหลายฉากที่จงใจเกินไปอย่าง ฉากซ้อมผู้ต้องหา(แต่ผมสะใจแฮะ) ฉากที่สารวัตรโดนโยนกระแทกกระจกในโรงพัก ฉากเซ็กส์ของสารวัตรกับผู้กอง(ช็อตนี้นานเกินไปและดูเจ็บปวดมากกว่าฟิน)การใช้เรื่องราวในอดีตมาหลอกหลอนคนในปัจจุบันแบบ เฉือน หรือ คนโลกจิต ถึงจะคาดเดายากแต่ตอนเฉลยความหักมุมก็ไม่ไม่ได้เซอร์ไพรส์หรือสะเทือนใจเท่าสองเรื่องก่อนหน้า บวกกับการเป็นหนังสืบสวนตำรวจที่ควรเน้นที่การสืบสวนเข้มข้นมากกว่าจะมาดราม่าล้างแค้นกัน
ตัวละคร เต๋าในบท สารวัตรวสันต์ มีแต่ด้านดุดัน โวยวาย จนบางครั้งน่ารำคาญ บทจะดีก็คิคุซะ ผีเข้าผีออกจนอดคิดไม่ได้ว่าแกบ้ารึเปล่า สรุปคือจัดเต็มทุกฉากแต่กลายเป็นล้น ที่โดดเด่นคือ โน๊ตเชิญยิ้ม ในบทจ่าทอง หลายคนอาจเพิ่งรู้ว่าแกมีความสามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้ดีพอๆกับการใช้ปากเล่นมุข และไม่จำเป็นต้องตลก บทนี้เทียบเคียงได้กับ เป้อูซี่ ที่ ป๋าเทพ เคยเล่นในหมาแก่อันตราย ป๊อก ปิยธิดา ในบทเมียสารวัตร เธอยังคงแสดงความยอดเยี่ยมทางการแสดงออกมาได้เสมอ น่าจะเป็นนักแสดงนำที่เล่นดีที่สุดในเรื่อง ส่วนบทหมวดนลิน ที่แสดงโดย คริสตัล วี ดาราสาวหน้าใหม่ถือว่าสอบผ่านแบบเฉียดฉิวบุคลิกเธอไม่ดุดันเอาซะเลย
สิ่งที่เด่นในหนังคือการบันทึกเสียง โดยเฉพาะเสียงปื่นที่ดังสนั่น กระสุนลั่นเฟี้ยวฟ้าวเหมือนเราอยู่ในที่เกิดเหตุ และเพลงประกอบที่เข้ากับตัวหนัง สำหรับการถ่ายภาพมีหลายฉากที่สวยงาม ผู้กำกับเปิดช็อตแรกด้วยการโชว์ลองเทคทำได้ดี ติงนิดเดียวคือกล้องช่วงแรกไหวบ่อยจนเกือบมึนหัว การปรับโฟกัสไปมาก็ทำให้ภาพไม่คม
ช่วงท้ายของเรื่องดูแล้วรู้เลยว่าชะตากรรมของสารวัตรมีหนังเรื่อง Seven เป็นแรงบันดาลใจ ฉากจบเป็นจุดที่ผมประทับใจที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยมีในหนังไทย การปล่อยให้คนดูสรุปตอนจบเอง ช่วยขับเน้นหนังให้ดูอินเตอร์มาก(ในตัวเรื่องมีกลิ่นหนังฮอลลีวู้ดแค่ประปราย) ทำให้คนดูได้อะไรกลับไปคิดต่อ รวมถึงเป็นอุบายให้ผู้ชมบางคนยอมนั่งดูเครดิตภาพสวยๆและฟังเพลงเพราะๆจนจบ เผื่อจะได้เจอปริศนาที่ผู้กำกับทิ้งไว้
สารวัตรหมาบ้า ตีแผ่วงการตำรวจได้น่าสนใจ ไม่ใช่หนังที่พูดได้เต็มปากว่าดี แต่ไม่ได้แย่ขนาดเสียดายเงินแน่ๆ คงบอกได้เพียงว่าเป็นผลงานที่น่าชื่นชมสำหรับผู้กำกับมือใหม่ เขาได้ฝากงานที่น่าสนใจซึ่งสามารถเป็นจุดเล็กๆของความหวังในการเปลี่ยนรสนิยมดูหนังของคนไทย ถึงจะไม่ทำเงิน ก็เชื่อว่า เวทีประกวดหนังจะมอบกล่องให้หนังเรื่องนี้เพื่อเป็นรางวัลในความกล้าหาญ
ติดตามต่อได้ที่ : http://cyberbird.exteen.com/20130712/entry
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)
จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์