สกู๊ปพิเศษ เรื่อที่ไม่มีวันลอย 100 ปี ไททานิค

ผมไม่เคยสังหรณ์ว่าใจว่าจะเกิดหายนะใดๆกับเรือเดินสมุทรลำนี้ การสร้างเรือยุคใหม่ได้ก้าวข้ามจุดนั้นไปแล้ว”

กัปตันเอ็ดเวิรด์ เจ สมิธ

ในพ.ศ. 2555  ครบรอบ 100 ปี แห่งโศกนาฏกรรมที่ยังคงสะเทือนใจคนทั่วโลกกับการจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกของเรือไททานิค ที่คร่าชีวิตผู้โดยสารไปถึง 2,228 คน  เรื่องราวของเรือไททานิคได้ถูกเล่าขานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ สารคดี และเมื่อเทคโนโลยีมีวิวัฒนาการที่สูงขึ้น ทำให้มีการสำรวจและกอบกู้ซากเรือไททานิคจากความลึกกว่า 12,500 ฟุต ขึ้นมาให้ชนรุ่นหลังได้ชม ในรูปแบบนิทรรศการ ที่นำเสนอซากปรักหักพังของเรือไททานิคที่ได้รับการดูแลรักษาเอาไว้อย่างดี โดย บริษัท อาร์เอ็มเอส ไททานิค บริษัทเดียวที่ได้รับการอนุญาตตามกฎหมายให้เก็บกู้วัตถุ และได้รับสิทธิ์ดูแลซากเรือไททานิคจากศาลกลางของประเทศสหรัฐตั้งแต่ปี 2537 ทั้งนี้บริษัทได้ทำการดำสำรวจและวิจัยซากเรือและเก็บกู้หลักฐานวัตถุกว่า 5,500 ชิ้นมาจากเรือไททานิค ดูแลรักษาและเปิดแสดงในรูปแบบนิทรรศการให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

โดยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา มีผู้คนมากกว่า 22 ล้านคนเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการอันยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งมีการเปิดแสดงขึ้นในพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ ทั่วโลก ทั้งในชิคาโก้ ลอสแองเจิลลิส ปารีส และลอนดอน และ “100 ปี ไททานิค นิทรรศการแห่งประวัติศาสตร์โลก” ได้เดินทางมาเปิดการแสดงให้คนไทยได้ชม      โดยผู้ร่วมสร้างคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อันได้แก่ เมืองไทยประกันชีวิต, สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา  สิ่งที่ท่านจะได้เห็นคือการรวบรวมหลักฐานทางวัตถุของแท้ที่เก็บกู้ขึ้นมาจากซากเรือ อาร์เอ็มเอส ไททานิค ซึ่งจมอยู่ 2.5 ไมล์ใต้ท้องทะเลของมหาสมุทรแอตแลนติก สิ่งของเหล่านี้ได้รับการคัดเลือก อนุรักษ์ และจัดวางเพื่อบอกเล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์การเดินเรือ โดยผู้ที่เข้าชมนิทรรศการแห่งประวัติศาสตร์นี้ จะได้รู้สึกใกล้เคียงกับเหมือนขึ้นไปอยู่บนเรือไททานิคด้วยตัวเอง

คุณรักษิต รักการดีผู้อำนวยการฝ่ายคอนเสิร์ตและกิจกรรมพิเศษของ บีอีซี ได้กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า

“ทางเทโรซึ่งทำงานคอนเสริต์จากต่างประเทศ และงานอีเว้นท์ต่างๆมา 10 กว่าปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโชว์จากดิสนีย์ออนไอซ์ ดิสนีย์ไลฟ์ ละครเวทีต่างๆ จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้ว ที่เรานำไดโนเสาร์เข้ามา  เสียงตอบรับดีมาก พ่อแม่ผู้ปกครองรู้สึกว่าเด็กๆจะได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น เราเลยมองว่ากิจกรรมที่มีความรู้ที่ไม่ใช่บันเทิงอย่างเดียว ก็น่าจะเหมาะกับคนไทยเหมือนกัน พ่อแม่ก็แฮปปี้ที่พาลูกมาดู
ทางเราก็ภูมิใจทีมีส่วนทำให้เด็กไทยมีความรู้เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นนโยบายมา เราได้คุยกับทางผู้จัดเอ็กซิบิชั่นหลายเจ้าในโซนเอเชีย
แต่หลายปีที่ผ่านมาเราไม่มีสถานที่จัด เพราะใช้สถานที่เยอะ และระยะเวลายาวนาน ไททานิคนี่อยู่ 3 เดือน จนกระทั่งเราได้คุยกับทางเซ็นทรัลเวิลด์เค้าจะนำพื้นที่ส่วนนี้มาทำเป็นฮอลล์ ทางเทโรอยากทำอะไรไหม เราอยากทำเอ็กซิบิชั่นอยู่แล้ว ความต้องการตรงกัน ไททานิค เลยเป็นงานเอ็กซิบิชั่นแรกของเรา

ผมอยากให้คนไทยที่มาชมได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินจากนิทรรศการ ผมคิดว่าถ้าคนไทยเรามีโอกาสเท่ากับชาติอื่นๆเราจะมีต้นทุนทางความรู้ที่ดี สิงค์โปร ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีมี ถ้าคนไทยไม่มีโอกาสเราก็เสียโอกาส เด็กไทยเราต้นทุนความรู้ก็จะต่ำกว่าเค้า
ผมคาดหวังว่าทางเทโรจะทำให้ต้นทุนทางความรู้ของเด็กไทยมีเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามองมางด้านธุรกิจผมก็ไม่ได้คิดขนาดว่าจะดังเปรี้ยงปร้าง กำไรมากมาย ทางเทโรมองเป็น
CSR มากกว่า แต่ถ้าทำแล้วเราขาดทุน คงทำต่อไม่ได้ ผมหวังว่าคนไทยจะตอบรับในเรื่องของการเข้าชม ทำให้โปรเจ็คนี้อยู่ไปได้นาน จบไททานิค อยากจะมีอย่างอื่นมาโชว์อีก อย่างเช่น ตุตันคาเมน  CSI  ดาวินชี มีหลายนิทรรศการมากที่เรามองไว้ ผมเชื่อว่าถ้าคนไทยให้การตอบรับ เราสามารถทำธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้

นิทรรศการครั้งนี้เปรียบเหมือนมาเดินอยู่บนเรือไททานิคทีเดียว ทางเราพยายามผูกเรื่องให้นิทรรศการครั้งนี้ผู้ชมได้รับทั้งความรู้และความสนุกสนาน เราอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าเราพาคุณย้อนเวลากลับไป 100 ปี เพื่อจะขึ้นเรือไปรับรู้เรื่องราวของไททานิคว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไททานิคถึงจม เรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นเพราะอะไร ไททานิคสร้างมาดีขนาดไหน ความประมาทของมนุษย์หรือเปล่า จริงๆเรื่องราวโศกนาฎกรรมมันเกิดขึ้นทุกวัน เพราะว่าถ้าเราได้เรียนรู้ในอดีต เราจะสามารถนำไปปรับปรุงอนาคตได้”

กำเนิด ไททานิค

บริษัท ไวท์สตาร์ไลน์ แห่งประเทศอังกฤษ อยากชิงความเป็นใหญ่ในธุรกิจการขนส่งคนข้ามหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ จึงต้องการสร้างเรือสำราญที่หรูหราที่สุดและใหญ่ที่สุด จึงเริ่มสร้างเรือ 2 ลำแรกคือ โอลิมปิกและไททานิค การสร้างเรือไททานิค ใช้เวลา 4 ปี

ความมหึมาของ ไททานิค

เรือไททานิคนั้นมีความยาวเกือบ 1 ใน 6 ไมล์ และมีความสูงถึง 11 ชั้น เรือลำนี้คือวัตถุที่เคลื่อนที่ได้ที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างจากมือมนุษย์

การออกแบบเรือเพื่อไม่ให้มีวันจม

การออกแบบเรือไททานิคยังให้ความสำคัญต่อเรื่องความปลอดภัย โดยท้องเรือที่มีผนัง 2 ชั้น และมีห้องกั้นน้ำ 16 ห้อง ด้วยระบบห้องกั้นน้ำ จะทำให้เรือลำนี้แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีวันจมตามความเห็นของวารสาร เดอะชิพบิลเดอร์

วันปล่อย ไททานิค ลงน้ำครั้งแรก

วันที่ 31 พฤษภาคม 2454 คือวันปล่อยเรือลงน้ำ อากาศในวันนั้นปลอดโปร่งและอบอุ่น ผู้คนมากกว่า 100,000 คนมารวมตัวเพื่อเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้

การเดินทางครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของ ไททานิค

เรือไททานิคได้รับผู้โดยสารชุดแรก ที่เมืองเซาแธมป์ตันในวันที่ 10 เมษายน มีผู้โดยสารบนเรือไททานิคมีทั้งมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งมีสาวใช้ คนรับใช้ และหีบตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์อันหรูหรา และก็ยังมีกลุ่มผู้โดยสารที่เป็นผู้อพยพจากประเทศในยุโรปเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ที่อเมริกา เหมือนกับเรือลำอื่นๆ ไททานิคมีตั๋วโดยสาร 3 ประเภท คือตั๋วโดยสารชั้นหนึ่ง ชั้นสอง และชั้นสาม บันไดหลักคือสุดยอดของการตกแต่งภายในของเรือไททานิค ผู้โดยสารชั้นหนึ่งมักจะมาร่วมตัวกันที่นี่เพื่อชื่นชมชุดที่แต่ละคนใส่ ก่อนจะไปรับประทานอาหารเย็น

นับถอยหลัง ไททานิค

ก่อนเวลา 23.40 น. ของวันที่ 14 เมษายน เสียงระฆังเรือ 3 ครั้ง เตือนจากกระเช้าสังเกตการณ์ เรื่อง ภูเขาน้ำแข็ง ช่วงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ส่วนหัวเรือไททานิคก็ค่อยๆเบี่ยงผ่านฝั่งซ้ายของภูเขาน้ำแข็ง แต่ปลายแหลมที่แข็งเหมือนหินของภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้น้ำแทงทะลุเข้าไปในกาบเรือด้านขวาเป็นระยะๆ ความยาวถึง 250 ฟุต น้ำทะลักท่วมห้องกั้นน้ำทั้ง 6 ห้อง ลูกเรือพยายามสูบน้ำออกจากเรือ และป้องกันเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าเพื่อให้มันยังคงทำงานต่อไปได้

กัปตันสั่งให้ส่งสัญญาณ SOS และรวมผู้โดยสารและเตรียมสละเรือ ให้เด็กและผู้หญิงได้อพยพก่อน        ลูกเรือสามารถปล่อยเรือชูชีพ 18 ลำจากทั้งหมด 20 ลำออกไปได้ จากนั้นหลังเวลาใน 2.00 นาฬิกาเล็กน้อย ของวันที่ 15 เมษายน หัวเรือจมหายไปในน้ำ ส่วนท้ายเรือก็ลอยขึ้นฟ้า
ไฟในเรือกระพริบหนึ่งครั้งก่อนจะดับหายไป เรือหักเป็นสองท่อน และจมดิ่งลงมหาสมุทรแอตแลนติก

 ผู้รอดชีวิต

เรือคาร์พาเธียที่ช่วยผู้รอดชีวิต กำลังมุ่งหน้าสู่มหานครเมืองนิวยอร์ค เหล่าผู้รอดชีวิตได้จัดพิธีทางศาสนา  เพื่อไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิต จากนั้นพวกเราก็รวบรวมรายชื่อของผู้โดยสารทุกคนที่รอดชีวิต จากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือบนไททานิค ทั้งหมด 2,207 คน มีเพียง 705 คนที่รอดชีวิต

เกร็ดข้อมูลเกี่ยวกับเรือไททานิค

  • ตั๋วโดยสารชั้นหนึ่งของไททานิค ไปยังมลรัฐนิวยอร์คราคา 2,500 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 57,200 เหรียญในปัจจุบัน

 

  • ห้องที่ราคาแพงที่สุดมีค่าโดยสารเทียบเท่าอัตราค่าเงินในปัจจุบันที่ 103,000 เหรียญ

 

  • ตั๋วโดยสารชั้นสามของเรือไททานิค ราคา 40 เหรียญดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 900 เหรียญ ในปัจจุบัน แต่ละห้องมีผู้โดยสารพักรวมกันสูงสุด 10 คน ห้องพักแยกผู้โดยสารชายหญิง ทำให้คนในครอบครัวเดียวกันต้องแยกห้องกันอยู่

 

  • ผู้โดยสารชั้นหนึ่งสามารถว่ายน้ำในสระว่ายน้ำหรูบนเรือ ด้วยอัตราค่าบริการครั้งละ 25 เซ็น ขณะที่ค่าบริการใช้คอร์ทสควอชอยู่ที่ 50 เซ็น
    (เท่ากับค่าบริการสำหรับผู้เล่นอาชีพ)

 

  • บนเรือ ไททานิค มีเชฟและผู้ช่วยเชฟกว่า 60 ชีวิตที่ทำงานในห้องครัวถึง 5 ครัว โดยแบ่งเป็นพ่อครัวที่จัดการเรื่องซุปและอาหารปิ้งย่าง พ่อครัวขนมหวาน และพ่อครัวที่ดูแลเรื่องผัก นอกจากนี้ยังมี  พ่อครัวอาหารยิวโดยเฉพาะเพื่อบริการผู้โดยสารชาวยิวด้วย

 

  • ไททานิค มีหนังสือพิมพ์เป็นของตัวเองที่ชื่อว่า แอตแลนติก เดลี บูลาทิน (Atlantic Daily Bulletin)   ซึ่งนอกเหนือจากการตีพิมพ์ข่าวสารรายวันและโฆษณาแล้ว ยังมีรายการอาหารประจำวัน ข่าวประกวดราคา ผลม้าแข่งและเรื่องซุบซิบนินทาในวงสังคมด้วย

 

  • ในชั้นโดยสารชั้นสามของเรือมีอ่างอาบน้ำเพียงแค่ 2 อ่าง ขณะที่มีผู้โดยสารกว่า 700 คน

 

  • ส่วนหน้าของเรือเป็นลานกว้างสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ขณะที่ส่วนท้ายเรือเป็นที่สำหรับผู้โดยสาร   ชั้นสอง ดังนั้นผู้โดยสารสองชั้นนี้จึงได้โอกาสที่ดีสุดในการลงเรือชูชีพเพราะทั้งสะดวกและรวดเร็ว

 

การเก็บกู้และการอนุรักษ์

คณะสำรวจเพื่อเก็บกู้วัตถุจากไททานิคได้รับการร่วมมือจากบริษัทอาร์เอ็มเอสไททานิค สถาบันวิจัยทางทะเลเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติฝรั่งเศส และสถาบันสมุทรศาสตร์พีพี เชอร์ชอฟในมอสโค การสำรวจเหล่านี้นำไปสู่ซากของเรือไททานิคซึ่งตั้งอยู่ 963 ไมล์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือจากนิวยอร์ค และ 453 ไมล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ จากชายหาดของนิวฟาวด์แลนด์ ช่วงปีพ.ศ. 2530 2536 2537 2539 2541 2543 และ 2547 ยานดำน้ำ นอไทล์
และ เอ็มไออาร์ ถูกใช้เก็บกู้ในการสำรวจปี พ.ศ. 2530 2536 2537 2539 2541 และ 2543 จักรกลเหล่านี้ถูกติดตั้งด้วยแขนกลไว้สำหรับตัก จับและกู้วัตถุซึ่งอาจจะอยู่ในตระกร้าสุ่ม หรือ ตระกร้าที่ต้องเปิดฝาช่องลูกเรือของยานดำน้ำแต่ละลำรองรับได้สามคน – คนขับ ผู้ช่วยผู้ขับ และ ผู้สังเกตการณ์ ซึ่งแต่ละคนจะมีหน้าต่างใต้ท้องเรือที่มีพลาสติกหนาหนึ่งฟุตกั้นระหว่างตัวเองกับก้นทะเล ยานดำน้ำทั้งสอง มีความสามารถในการปล่อยยานยนต์บังคับในขอบเขต 110 ฟุต ซึ่งจะถูกปล่อยให้เข้าไปในซากเรือเพื่อถ่ายภาพ

การสำรวจในปี พ.ศ. 2547 ยานยนต์บังคับทางไกล รีโมรา 6000 หรือ อาร์โอวี (Remora 6000 Remote Operated Vehicle- ROV) ถูกใช้ในการเก็บกู้วัตถุ ยานยนต์ลำนี้ถูกบังคับจากพื้นน้ำด้านบนโดยคนขับอาร์โอวี การเดินทางไปยังซากเรือไททานิค ต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง การดำน้ำไปแต่ละครั้งใช้เวลาประมาน 12-15 ชั่วโมงโดยมีเวลาเพิ่มอีก 2 ชั่วโมงในการขึ้นสู่ผืนน้ำ

วัตถุที่เก็บกู้มาได้ทุกชิ้นต้องผ่านขั้นตอนการอนุรักษ์ด้วยวิธีการที่ออกแบบมาอย่างละเมียดละไม เพื่อกำจัดสนิมและเกลือสะสมจากวัตถุแต่ละชิ้น เมื่อวัตถุออกจากน้ำและเผยต่ออากาศ พวกมันจำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการรักษาสภาพ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพไปมากกว่านี้ วัตถุจะถูกทำความสะอาดด้วยแปรงนุ่มและถูกวางในถังน้ำที่มีโฟมเรียงและมีน้ำจืดหลังจากที่ถูกเก็บกู้มาจากน้ำเค็ม เมื่อถึงห้องปฏิบัติการณ์อนุรักษ์ เกลือที่แปดเปื้อนจะถูกกำจัดออกจากวัตถุแต่ละชิ้น หลังจากระยะเวลาหกเดือนถึงสองปี วัตถุจะถูกอนุรักษ์โดยผ่านวิธีที่เข้ากันได้กับโครงสร้างวัสดุของวัตถุแต่ละชิ้น

ตัวอย่างเช่น
วัตถุเหล็กจะถูกวางในอ่างกลั่นน้ำทะเล และผ่านกระบวนการแรกของการแยกสลายด้วยไฟฟ้า ซึ่งจะแยกประจุลบและเกลือออกจากวัตถุ การแยกสลายด้วยไฟฟ้าในตอนนี้ถูกใช้เพื่อกำจัดเกลือออกจากกระดาษ หนัง และไม้ วัสดุเหล่านี้จะได้รับการดูแลด้วยกรรมวิธีทางเคมี และสารฆ่าเชื้อราซึ่งจะกำจัดสนิมและชื่อราออกจากมัน วัตถุที่ทำมาจากกระดาษจะถูกแช่แข็งให้แห้งเพื่อกำจัดน้ำก่อน และจะถูกทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นชนิดพิเศษและอุปกรณ์มือเพื่อเอาสิ่งสกปรกและเศษขยะออก วัตถุที่เป็นหนังจะถูกทำให้เปียกหรือฉีดด้วยขี้ผึ้งที่ละลายน้ำได้ซึ่งจะแทนที่ช่องว่างซึ่งเคยเต็มไปด้วยน้ำและเศษขยะ วัตถุจะถูกแสดงในตู้โชว์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยมีการควบคุมระดับอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และแสง เพื่อป้องกันวัตถุจากตัวกระทำสามตัวที่จะทำให้เสื่อมสภาพ การแสดงวัตถุถูกถนอมและได้รับดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้แสดงในนิทรรศการและถูกเก็บรักษาไว้ในอนาคต

ท่านใดสนใจจะขึ้นเรือที่หรูหราที่สุด เรือที่ไม่มีวันจม เรือที่เป็นประวัติศาสตร์เล่าขานกันไม่รู้จบ เชิญได้ที่

ตั้งแต่วันนี้– 2 ก.ย. ณ. เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 บัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 500 บาท และ 350 สำหรับเด็ก มีจำหน่ายที่ Thaiticketmajor หรือ บริเวณหน้างาน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2262-3838  www.bectero.com/titanic/ , www.thaiticketmajor.com

 

ครั้งหนึ่งในชีวิตกับนิทรรศแห่งประวัติศาสตร์โลก นิทรรศการดีๆและหาชมได้ยากอย่างนี้ เราไม่อยากให้คุณพลาด

 

 

 

 

 

You may also like...