ณรงค์ เกตุแก้ว

การค้นพบความชอบของตัวเอง ในอาชีพ หน้าที่การงาน อาจเป็นความฝันของใครหลายๆคน หลายคนเจอแล้ว ในขณะที่หลายคนพยายามขวนขวายหาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข สามารถหล่อเลี้ยงทั้งจิตวิญญาณและเลี้ยงปากท้องได้พร้อมๆกัน ชายหนุ่มคนนี้คงไม่ต่างจากหลายๆคน ที่เดินทาง ทดลองทำ หาความฝัน และสิ่งที่ชอบไปเรื่อยๆ

แต่น่าจะแตกต่างจากอีกหลายๆคน ที่เค้ากำลังพยายามผลักดันสินค้าไทยให้ไปไกลทั่วโลกด้วยความภาคภูมิใจ เราเชื่อว่าไม่นาน ห้องเสื้อณรงค์ จะเป็นแบรนด์ที่คนทั่วโลกรู้จักได้ไม่ยากเย็นนัก

ประวัติส่วนตัว

ปัจจุบันผมอายุ33ปี เป็นคนอำเภอบ้านโป่งจ.ราชบุรี ชีวิตวัยเด็กก็เหมือนกับเด็กต่างจังหวัดทั่วไปที่ชอบยิงนกตกปลาแต่มีหนึ่งสิ่งที่ผมชอบทำมากเป็นพิเศษเสมอนั่นคือวาดรูปและงานศิลปะจนผลงานและความคิดสร้างสรรค์ของผมได้รับการสนับสนุนจากคุณครูและอาจารย์ให้ส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลตั้งแตสมัยเรียนชั้นประถมเนื่องจากเติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลางครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยแต่เราก็ไม่ได้ลำบากอะไรคุณพ่อและคุณแม่ต้องทำงานด้วยกันทั้งคู่ ผมมีพี่สาวหนึ่งคนซึ่งเราก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และต้องหัดทำอะไรต่างๆด้วยตัวเองมาโดยตลอดผมเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบความจำเจและ ชอบอยู่ในที่หรือไปในสถานที่ที่ทำให้ชีวิตตื่นเต้นและทำให้เราประหลาดใจได้เสมอ

การศึกษาจบปวช.จากเทคนิคราชบุรี เอกวิชาช่างไฟฟ้า งงใช่มั้ยครับว่าไปยังไงมายังไงถึงได้มาเป็นดีไซเนอร์ได้ สมัยเรียนช่างไฟฟ้าก็เรียนได้เกรดดีมากเป็นอันดับต้นๆของห้องและพอเรียนจบในปี 1994 ผมก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าไม่ชอบงานด้านนี้แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าชอบทำอะไรกันแน่ ตอนนั้นรู้แค่ว่าชอบเรียนภาษาอังกฤษและชอบท่องเที่ยว เลยตัดสินใจเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพที่สถาบันราชภัฏจันทรเกษมในสาขาวิชาธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยวเมื่อขึ้นมหาวิทยาลัยปี 3ผมสอบชิงทุนของมหาวิทยลัยและได้ไปเป็นนักเรียนแรกเปลี่ยนที่ประเทศแคนาดา จึงเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของผมและเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต การที่ได้ไปเปิดหูเปิดตาได้รู้จักวัฒนธรรมจริงของชาวตะวันตกและวิถีชีวิตที่มีความแตกต่างกันอย่างโดยสิ้นเชิงกับของคนไทยนั้นทำให้เกิดแรงบัลดาลใจว่าอยากท่องเที่ยวและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในชีวิตในท่องเที่ยวและเดินมากยิ่งขึ้นหลังจากกลับมาจากแคนาดาก็ได้มาทำงานเป็นมัคคุเทศก์อยู่ประมาณปีครึ่งและได้ตัดสินใจไปทำงานต่อที่สหรัฐอเมริกา

ผมทำงานอยู่บนเรือสำราญแต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆเนื่องจากไม่ชอบลักษณะงานที่ทำจึงลาออกกลับมาเมืองไทยและได้ไปทำงานต่อที่มาเลเซียต่อประมาณปีครึ่ง ในระหว่างนั้นมีคนรู้จักโทรมาเสนองาน คือทำงานบนเรือยอร์ช ที่ประเทศคูเวต ซึ่งเป็นของครอบครัวมหาเศรษฐีอันดับสองของคูเวต  เป็นงานที่ผมชอบมากอีกงานหนึ่ง ผมทำงานบนเรือนี่ ได้3ปี  และได้เดินทางเกือบครึ่งโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง,กลุ่มทะเลแบลคซี,แถบทะเลเมดีเตอเรเนี่ยน,ทะเลบอลติค และอื่นๆอีกมาก การได้เห็นและสัมผัสกับความหรูหราไลฟ์สไตล์ของคนระดับไฮเอ็นด์ผมคิดเล่นๆว่าสักวันหนึ่งจะมีเรือยอร์ชเป็นของตัวเองบ้าง เมื่อปลายปี 2006 ผมกลับมาพักร้อนที่เมืองไทยและเกิดความรู้สึกว่าอยากทำงานอะไรสักอย่างที่ใจรัก และชอบที่จะทำมัน จึงได้รวบรวมความคิดอยู่นานจนมาลงเอยที่ แฟชั่นเพราะโดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบแต่งตัวอยู่แล้วและชอบศึกษาเทรนของแฟชั่นอยู่เสมอ  จึงตัดสินใจตามความฝันคือเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้าทั้งๆที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ เพราะผมเป็นคนที่กล้าคิดกล้าทำและไม่รอคอยโอกาสผมว่าเป็นคนชอบเสี่ยงกล้าได้กล้าเสีย

หลังจากเปิดร้านมาได้ หนึ่งปีก็ตัดสินใจมาเรียนที่สถาบันออกแบบชนาพัฒน์(C.I.D.I-Chanapatana International Design Institute) ในสาขาวิชาแฟชั่นดีไซน์พอมาเรียนแล้วก็ยิ่งแน่ใจว่าเส้นทางนี้แหละที่ชอบและเหมาะกับตัวผมที่สุดทุกวันนี้ตื่นขึ้นมามีความรู้สึกว่าอยากไปทำงาน มีไฟอยู่ตลอดเวลาเพราะเป็นงานที่ผมรักผมถือว่าเป็นคนโชคดีมากที่ค้นพบเองได้เร็วกว่าคนอื่น    มีคนกล่าวไว้ว่าคนเราเกิดมาบนโลกนี้เพื่อที่จะมาทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งผมคิดว่าแฟชั่นนี่แหละ คือสิ่งนั้น ที่ตอบโจทย์ในคำถามนี้ได้ ถ้าพูดถึงความสำเร็จทุกวันนี้ผมยอมรับว่าประสบความสำเร็จใจระดับหนึ่ง มีร้านห้องเสื้อ สองร้านในเวลาสามปี สามารถดูแลครอบครับและพี่น้องได้  ผมมีความสุขมาก และผมจะไม่หยุดCreateเพียงแค่นี้

แรงบัลดาลใจในการทำงานและการออกแบบ

ส่วนใหญ่ได้มาจากสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา จากการได้เดินทางท่องเที่ยวทุกสิ่งที่ผมได้พบเจอก็สามารถเก็บมาเป็นแรงบัลดาลใจได้  ผมจะเก็บข้อมูลผ่านทางการวาดรูป   รูปถ่าย หรือจดบันทึก  และไม่ว่าผมจะเดินทางไปที่ไหนผมจะมีสมุดสเก็ตบุคติดตัวไปด้วยตลอดเวลา  ชอบอะไรก็วาดบันทึกหรือถ่ายรูปเก็บไว้  ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมสามารถดึงข้อมูลมาเป็นข้ออ้างอิงในการออกแบบคอลเล๊คชั่นต่อไปได้

ภาระกิจเร่งด่วนที่ต้องทำ

ในแต่ละวันมีภาระกิจเร่งด่วนมากมายที่ต้องแข็งกับเวลา แต่ถ้าพูดถึงภาระกิจที่เร่งด่วนที่สุด  การออกคอลเลคชั่นชุดแต่งงานที่กำลังจะนำเสนอผลงานของห้องเสื้อผมในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมนี้ต้องคอยติดตามชมผลงานกันนะครับว่าคอลเล็คชั่นชุดแต่งงานของผมจะออกมาอลังการมากน้อยเพียงใด

จุดมุ่งหมายและแผนงานในอนาคต

-จุดมุ่งหมายหลักคือการได้เป็นดีไซเนอร์ชุดแต่งงานระดับแนวหน้าของเมืองไทยและเป็นที่ยอมรับในตลาดสากลอีกด้วย

และการได้ผลิตงานที่มีคุณภาพและพิถีพิถันในชิ้นงานให้มีประสิทธิภาพและให้ลูกค้ามีความพึงพอใจกับงานออกแบบนั้นๆให้มากที่สุด

-ผมต้องการเห็นองค์กรของผมเติบโตขึ้นเรื่อยๆและก้าวต่อไปได้ด้วยตัวของมันเองและอาจจะมีสาขาเพิ่มมากขึ้นในอนาคตหรือขยายไปยังต่างประเทศอีกด้วย

ขอให้เขาได้ไปไกลอย่างที่ใจหวัง ณรงค์ เกตุแก้ว

 

 

 

 

You may also like...