กลับมาอีกครั้งกับการมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่จากทั่วโลกกับรางวัล ELLE DECORATION INTERNATIONAL DESIGN AWARD หรือ EDIDA ซึ่งเป็นเวทีสรรหาดีไซเนอร์ ผู้เปี่ยมด้วยความสามารถและพรสวรรค์
โดยริเริ่มขึ้นเมื่อปีค.ศ. 2002 และจัดต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกและมอบรางวัลให้แก่ผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม 11 ประเภท ได้แก่ Seating, Floor Covering, Furniture, Lighting, Kitchen, Tableware, Bathroom, Wall Covering, Bedding, Fabric และ Outdoor รวมถึงยังสรรหาและมอบรางวัลให้แก่ดีไซเนอร์แห่งปี (Designer for the Year) และดีไซเนอร์หน้าใหม่ (Young Designer Talent) อีกด้วย โดยเกณฑ์ในการตัดสินนั้นพิจารณาตามฟังก์ชั่นของการใช้งาน ความสวยงาม นวัตกรรมซึ่งมีผลในระดับโลก และความเป็นสากลของงานดีไซน์
สำหรับการคัดเลือกผลงานเข้าชิงรางวัล EDIDA นั้น แบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน ช่วงแรกเป็นการคัดเลือกในระดับประเทศ ซึ่งแต่ละปีบรรณาธิการนิตยสารแอล เดคคอเรชั่น อิดิชั่นต่างๆ จาก 27 ประเทศทั่วโลก จะเลือกเฟ้นสุดยอดดีไซเนอร์และชิ้นงานการออกแบบประเภทต่างๆ ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบในรอบปีนั้นๆ เพื่อนำเสนอเข้าชิงรางวัลในฐานะตัวแทนของประเทศ
เมื่อได้ชิ้นงานและดีไซเนอร์ซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละประเทศแล้ว ลำดับถัดมาเป็นการคัดเลือกในระดับนานาชาติ โดยผลงานการออกแบบในแต่ละประเภทจากทุกประเทศที่ส่งเข้ามา รวมถึงดีไซเนอร์แห่งปีและดีไซเนอร์หน้าใหม่นั้น จะได้รับการตัดสินด้วยการโหวตจากบรรณาธิการแอล เดคคอเรชั่น จากทุกประเทศ
ในปีนี้ ELLE DECORATION THAILAND DESIGN AWARD (EDTDA) จะมีการจัดนิทรรศการโชว์ผลงานที่เป็นตัวแทนจากประเทศไทยที่งาน Thailand BIG+BIH October 2013 ครั้งที่ 36 ณ ไบเทค บางนา Hall 101 วันที่ 19-23 ต.ค. เวลา 10.00-21.00 น. โดยมีผลงานดังนี้
1. นักออกแบบรุ่นใหม่ประจำปีจาก Thinkk Studio
ดีไซน์สตูดิโอของนักออกแบบจากประเทศไทย 2 คนคือ พลอยพรรณ ธีรชัย และเดชา อรรจนานันท์ มีผลงานมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรม สเปซ เฟอร์นิเจอร์ โดยเดชาได้เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปแสดงผลงานออกแบบในบูธ Talents a la Carte ที่งาน Maison & Objet ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับนักออกแบบ 5 ท่านจากเอเชีย เมื่อเดินกันยายน ปี 2555
2. โคมไฟจาก Corner 43 Décor
ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกลำโพง จุดเด่นอยู่ที่การนำหวายมาถักถอจนกลายเป็นรูปทรงโคมไทยที่สวยงาม อีกทั้งยังสะท้อนถึงหัตถศิลป์ที่ประณีตแบบไทย
3. อาร์มแชร์จาก Deesawat
ได้รับแรงบันดาลใจจากการพับกระดาษแบบ โอริกามิ โดดเด่นที่การใช้เส้นสายอันเรียบง่าย ผสมผสานรากเหง้าวัฒนธรรมแบบเก่าและแบบใหม่อย่างชัดเจน
4. วอลเปเปอร์จาก Jim Thompson
ได้รับแรงบันดาลใจจากที่คนไทยผูกพันกับสายน้ำ โดยนำลวดลายผ้าไหมคลาสสิคที่ได้รับความนิยมอย่างสูง 7 ลายมาสร้างเป็นวอลเปเปอร์
5. จานชามเซรามิคจาก DoiTung & iKea
เป็นการร่วมมือกันระหว่างดอยตุงกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สวีดิชชื่อดังอย่าง IKEA มีที่มาจากความสวยงามของธรรมชาติแวดล้อมและประวัติความเป็นมาของโครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริมาเป็นแรงบันดาลใจ
6. Fabric เก้าอี้หมอนอิงจาก Srinlim
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลิเก การแสดงพื้นบ้านยอดนิยมของไทย โดยแสดงออกมาได้อย่างสนุก ทั้งยังดูร่วมสมัยอีกด้วย โดยนำไปใช้ได้อย่างหลากหลาย อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ปลอกหมอนอิง ชุดเครื่องนอน หรือแม้แต่ผ้าพันคอ
7. เก้าอี้ outdoor จาก Plato
มีจุดเด่นอยู่ที่การผสมผสานระหว่างลวดลายไทยดั้งเดิมกับผ้าสมัยใหม่จากอิตาลี สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 40 กิโลกรัมต่อตารางเซ็นติเมตร นอกจากนี้ดีไซเนอร์ยังเลือกใช้ซิปสำหรับการก่อสร้างสะพาน นับเป็นครั้งแรกที่มีการใช้วัสดุชนิดนี้มาออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัมต่อซิป 1 ตัว
8. โต๊ะอาหารจาก Momoest
เป็นผลงานร่วมออกแบบระหว่างศุภชัย เกศการุณกุล ช่างภาพและผู้ก่อตั้งแบรนด์ Momoest กับอภิรัฐ บุญเรืองถาวร นักออกแบบอิสระ จุดเด่นคือการนำศิลปะภาพถ่ายมาดีไซน์อย่างลงตัว
สอบถามเพิ่มเติม
ฝ่ายสื่อสารการตลาด นิตยสาร แอล เดคคอเรชั่น ประเทศไทย
คุณนุชจณี 089-676-4868 คุณกัญญารัตน์ 081-703-1117