แม้พระอาทิตย์กับพระจันทร์มิมีวันได้พบกัน แต่อาจมีช่วงเวลาสั้นๆตอนพลบคํ่านิดเดียว” นี่คือคำโปรยของหนังเรื่อง October Sonata หรือในชื่อไทย รักที่รอคอย ภาพยนตร์ที่สร้างความแปลกใจให้กับวงการหนังด้วยการคว้ารางวัลสุพรรณหงส์ไปถึง 4 รางวัล ที่สำคัญคือ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
หนังกำกับโดย สมเกียรติ์ วิทุรานิช ผู้กำกับมากประสบการณ์ ร่วมด้วยนักแสดงชั้นนำอย่าง ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ(ตอนนั้นยังไม่ดัง) และ บอย พิษณุ นิ่มสกุล ซึ่งเนื้อหาได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือชื่อ สงครามชีวิต ของ ศรีบูรพา
October Sonata เล่าถึงเรื่องของ แสงจันทร์ หญิงกำพร้าที่ทำอาชีพเย็บผ้าได้พบกับ รวี หนุ่มนักศึกษาซึ่งกำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอก ในงานศพ มิตร ชัยบัญชา พระเอกดัง เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2513 รวีแวะมาทำธุระและพักที่ บังกะโล แสนมุก โฮเต็ล กับเธอ เขาสุภาพอ่อนโยน ใจดี จน แสงจันทร์ แอบหลงรัก ทว่าเขาต้องเดินทางไปเรียนต่อวันรุ่งขึ้น สิ่งที่ฝากไว้มีเพียงหนังสือนิยายเรื่องสงครามชีวิตและคำสัญญาว่าจะกลับมาพบกันที่นี่ในอีก 2 ปี
แสงจันทร์ กลับกรุงเทพฯตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยใช้เวลาช่วงดึกเรียนหนังสือ เธออ่านหนังสือไม่ออก แต่เพราะนิยายเล่มนั้นทำให้ แสงจันทร์ ตัดสินใจเข้าโรงเรียน แถมยังเปลี่ยนชื่อเป็น เพลิน ตามตัวละครในเรื่องอีก ต่อมามีหนุ่มลูกครึ่งจีนชื่อ ลิ้ม เข้ามาติดพันเธอ เขารักเธอมาก กระนั้น แสงจันทร์ ก็ยังคงไม่ลืม รวี เธอเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาคอยให้ถึงวันที่ 8 ตุลาคมเร็วๆ
ทว่าหลายปีผ่านไป รวี ก็ยังไม่ปรากฏตัว สุดท้ายเธอจึงยอมใจอ่อนแต่งงานกับ ลิ้ม แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ปีถัดมา รวี กลับมาที่บังกะโล พร้อมกับอธิบายว่าเขามาที่นี่ไม่ได้เพราะถูกจับในการเดินขบวนประท้วงของนักศึกษา จากนั้นชีวิตคู่ของ แสงจันทร์ กับ ลิ้ม ก็ค่อยๆล่มลง เช่นเดียวกับความห่างของ แสงจันทร์กับ รวี ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บทเปรียบเปรยการพลัดพรากของ รวี ที่แปลว่า พระอาทิตย์ กับ แสงจันทร์ ว่าเป็นเหมือนระยะห่างของดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ มีการนำเรื่องของเหตุการณ์ทางการเมืองในยุค 14 ตุลา 16 กับ 6 ตุลา 19 มาเป็นฉากหลังแต่ไม่โดดเด่นเท่าไหร่ เรื่องความยุติธรรมและการต่อสู้ของชนชั้นแรงงานกับชนชั้นสูงดูจะถูกขับเน้นมากกว่า โดยเฉพาะในฉากที่ แสงจันทร์ เรียกร้องความเป็นธรรมกับ คุณนาย ที่เอาเปรียบเธอจนที่สุดเธอก็พลิกชีวิตจากกรรมกรไปเป็นนักเขียนอย่างภาคภูมิ
แม้บทหนังจะดูเข้มแข็งแต่ก็ไม่ละเมียดเท่าที่ควร อย่างการที่คนดูแลบังกะโลจำ แสงจันทร์ ไม่ได้เพียงเพราะเธอลงชื่อในสมุดว่า เพลิน ความรักของ รวี กับ แสงจันทร์ ที่ดูฉาบฉวยชั่วข้ามคืนจนไม่อาจเชื่อว่าทั้งคู่จะใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรอกัน ส่วนชื่อหนังก็เหมือนจะตั้งให้ดูเก๋ๆเขากับกระแสหนังเกาหลีดังๆ เนื่องจาก Sonata ที่เป็นศัพท์เกี่ยวกับเปียโนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเรื่องเลย
ด้านการแสดง ก้อย รัชวิน แสดงได้ดีกับบทที่เติบโตจากเด็กสาวไร้เดียงสาไปสู่ผู้หญิงเก่งในสังคม ผิดกับพระเอกของเราที่ดูจะเปลี่ยนแปลงแต่เพียงร่างกายภายนอก โป๊ป ธนวรรธน์ เป็นหนุ่มแสนดีจนดูไม่น่าเชื่อ ผู้ชายแบบนี้เห็นจะมีแต่ในนิยายเท่านั้น อาจเพราะเป็นการแสดงหนังจริงๆจังเรื่องแรกของเขา ที่น่าชื่นชมที่สุดเห็นจะเป็น บอย พิษณุ เขาตีบทแตกจนคนดูหลายคนแอบเห็นใจและเอาใจช่วยให้นางเอกหันมามองเขาบ้าง
ความรักของคู่พระนางใน October Sonata ซาบซึ้งในแง่ของการใช้ความอดทนในการรอคอยอีกฝ่าย ด้วยว่ายุคสมัยนั้นการสื่อสารมีช่องทางน้อยและล่าช้ามาก คำสัญญาจึงมีความสำคัญมาก ผิดกับสมัยนี้ที่การสื่อสารสะดวกสบายนอกจากจะไม่ผิดคำพูด รักษาสัญญาแล้ว เทคโนโลยียังมีส่วนทำให้เราเผลอพูดจาโป้ปดบ่อยๆ “ตอนนี้ผมใกล้ถึงแล้วนะ” (จริงๆเพิ่งออกจากบ้าน)
ปล.ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบแล้วผมนึกถึงเพลงไกล ของวง Musketeers ส่วนตัวคิดว่าสามารถเป็นเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ได้สบาย มันถูกส่งออกมาใกล้ๆกับช่วงที่หนังฉายจนผมอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือจริงๆต่างก็รออยู่แล้วกันแน่
7.5/10
by: นกไซเบอร์
edit @ 27 Jun 2012 11:27:18 by นกไซเบอร์
ติดตามต่อได้ที่ : http://cyberbird.exteen.com/20120225/october-sonata-3
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์ )
เรียนจบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์