บิณฑ์ สอนมวยไทย ใน กรรไกร ไข่ ผ้าไหม

กรรไกร ไข่ผ้าไหม ภาพยนตร์คอมเมดี้ ดราม่า เป็นเรื่องราวความวุ่นวายในโรงเรียนเขียนบทและกำกับฯโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ดึงเอาประสบการณ์ที่พบเจอในวัยเด็กมาผสมผสานกับเหตุการณ์ที่พบเจอในปัจจุบัน

กับฉากทะเลาะกันระหว่างสองโรงเรียนคือ โรงเรียนนานาจิตตรงกัน กับโรงเรียนนานาจิตตัง ที่บาดหมางกันระหว่างนักเรียน แต่ทั้งสองฝ่ายตกลงใช้กีฬามวยเป็นเครื่องตัดสิน โดยดึง พีช-สุพัตรา เขมทองคำ (พีช- ภู่ระหงษ์ ศิษย์จ่าแดง) เจ้าของตำแหน่งมิสคนสวยมวยสยาม เรียกได้ว่าในวงการมวยไทยตอนนี้ฮอตสุดๆ กับน้องสาว พีน-สุนิสา เขมทองคำ (นักแสดงคีตะมวยไทย) ให้มารับบทสุดถนัดกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต โชว์ความสามารถด้านมวยไทย

โดยประเดิมคู่แรกเป็นการประลองยุทธกันระหว่าง พีน-สุนิสา รับบทนักเรียนโรงเรียนนานาจิตตรงกัน กับ อังคนา คำหาญพล(ซาซ่า ศ.อารีย์ เหรียญเงินมวยไทยสมัครเล่นชิงแชฒป์โลกรุ่นฟลายเวท) รับบทนักเรียนฝ่ายโรงเรียนนานาจิตตัง ส่วน พีช-สุพัตรา รับบทครูสอนพละโรงเรียนนานาจิตตรงกัน ก็ได้ขึ้นสังเวียนประลองกำปั้นเป็นคู่ต่อไปกับ ธันย์ณภัทร ศิริมาตย์ (มดง่ามศิษย์จ่าแดง เหรียญทองแดงมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทย 2 ปีซ้อน)รับบทครูพละโรงเรียนนานาจิตตัง เป็นคู่ระหว่างโค๊ต ที่เกิดอาการนักเรียนแพ้ครูไม่แพ้ กองถ่ายยกเวทีมวยมาเซ็ทกันถึงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ มีนบุรี พีชและพีนทั้งสองยอมรับว่าเกรงกับฉากนี้อยู่เหมือนกัน มันเป็นฉากใหญ่ฉากหนึ่งของเรื่องที่ทั้งสองคนต้องโชว์ความสามารถกันอย่างเต็มที่ ทางด้านพีนเริ่มถ่ายทำก่อน ด้วยเป็นฉากซ้อมมวยเตรียมตัวตั้งแต่เช้าถ่ายเสร็จก็บ่าย กว่าจะถ่ายทำฉากชกกันบนเวทีกว่าจะให้ได้ภาพสวย ๆ ก็ทำเอาพีนเหงื่อโชก และถึงกับเลือดกำเดาไหล เนื่องจากเหนื่อยต่อเนื่องตั้งแต่เช้า อากาศก็ร้อนมาก และเครียดเพราะเป็นการแสดงหนังเป็นครั้งแรกในชีวิต ต่อมาถึงตาพี่สาวคนสวยพีชที่ต้องขึ้นเวทีชกมวยต่อจากน้องสาว ทุกคนก็เป็นห่วงมากแต่พีชก็แสดงได้ผ่านฉลุย เพราะชินเวที ผู้กำกับฯทีมงานนักแสดงร่วมเชียร์กับอย่างจริงจัง ตะโกนให้หลบซ้ายหลบขวาเหมือนดูพีชชกจริงในสังเวียน

บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กว่าถึงฉากนี้ว่า ผมไปดูผู้หญิงต่อยมวยก็เห็นว่า หน้าตาสวยมากแต่มีความอาฆาตว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องแพ้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องชนะเป็นการห้ำหั่นฟาดฟันกัน แต่ก็แฝงไปด้วยความสวยงามของพวกเค้าดูหน้าสนใจอยากให้ทุกคนได้เห็นมุมนี้ด้วย ผมก็เลยคิดมุขเอามานำเสนอในภาพยนตร์เรื่องนี้ และถ้าภายภาคหน้าเราไม่สามารถจะยับยั้งพวกช่างกลที่จะตีกันข้างนอกโรงเรียนได้ อันนี้ก็เป็นทางออกที่ดี โดยให้ทั้งสองฝ่ายทำหนังสือถึงกันและมาต่อยกันบนเวที โดยใช้กติกาสากลบนเวทีมีกรรมการมีครูทั้งสองฝ่าย จะได้สะใจไม่ต้องไปตีกันให้คนอื่นเค้าเดือนร้อน ชาวบ้านคนอื่นเค้าไม่รู้เรื่องต้องมาโดนลูกหลงต้องเสียชีวิตต้องตายไปกี่คนกี่หน ผมก็คิดว่าให้ในเรื่องเอานักเรียนมาเจอกันทะเลาะกันที่ตลาดแล้วก็มาต่อยกันบนเวทีเลยดีกว่าดูแล้วมันเป็นสิ่งที่แมน ดูเป็นลูกผู้ชาย เสร็จแล้วก็จบอาจเป็นเพื่อนกันก็ได้ หรืออาจรักกันไม่ต้องมาหมางใจกันอีก และที่ช่างกลตีกันก็ไม่รู้เพราะอะไรมันหาคำตอบไม่เจอ ผมก็เลยคิดเอาแก๊กนี้มาใส่เผื่อช่างกลมาดูเห็นจะเอาไปใช้ได้ ฉากนี้ผมเอานักมวยมาเลยจริงๆเพราะผมไม่อยากเอาดารามาแล้วมาต่อยกันแบบเหยาะแหยะเหมือนทั่วไป แต่นี้ถือว่ายังไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ เพราะเค้าก็เกร็งๆกันมาก ถึงจะเป็นการชกมวยที่เคยชินแต่ก็เป็นหนังเรื่องแรกของเค้าไม่ให้เกร็งก็คงยาก แต่ก็ 80% ถึงจะไม่เต็ม 100% ก็โอเค ก็ไม่ผิดหวังกับฉากนี้

ภาพยนตร์เรื่อง “กรรไกร ไข่ผ้าไหม” ผู้กำกับฯ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ก็จะสอดแทรกแง่คิดให้ผู้ชมทุกเรื่องตามประสบการณ์ที่พบเจอ รับรองว่าดูแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน ฉายจริง 16 มกราคม 57 ในโรงภาพยนตร์


													

You may also like...