นิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของ มงคล เกิดวัน ประติมากรไทยร่วมสมัย เจ้าของผลงาน 1 เหรียญทอง รางวัลศิลปกรรมแห่งชาติ ปีพ.ศ.2543 และ 2 เหรียญเงิน รางวัลศิลปกรรมแห่งชาติ ปีพ.ศ.2542 และ 2544 ประเภทสื่อผสม
ผลงานมาจากความคิดที่ถูกบ่มเพาะและทักษะฝีมือ ที่ถูกขัดเกลามาร่วมสิบปี ภายใต้คอนเซ็ปต์“เมืองคนลวง”เมืองของความจริงหรือความลวงที่หลอกลวง คนทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเวลาใด วงการใด ไปจนถึงปัจจุบันกาลที่ซึ่งกำลังเกิดวิกฤตการณ์การเมืองระดับชาติ ความลวงก็ยังคงลวงคนได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คนยังหลงอยู่ในวังวนของความลวง หลอกลวงตัวเองและสังคมว่า…เป็นความจริงอันน่าหลงใหล
โลกที่เราอยู่ในปัจจุบันเป็นโลกจริงหรือโลกลวงกันแน่? และการตั้งคำถามกับสุนทรียะในการชมงานศิลปะของผู้คนว่าเป็นการชมแบบอาหารตาหรืออาหารสมอง? เหล่านี้เป็นคำถามที่มงคลอยากตั้งไว้ให้แง่คิดกับคนดูในฐานะศิลปินที่รังสรรค์ผลงานศิลปะ
มงคล เกิดวัน ใช้ทักษะฝีมือและวัสดุอุปกรณ์จากธรรมชาติจากความจริง ใช้ศิลปะขัดเกลาวัสดุและจิตใจของตนเองเป็นผลงานศิลปะลวงโลก ฉีกกฎเกณฑ์ประติมากรรมรูปแบบเก่าทิ้งด้วยการสร้าง เรื่องลวงโลกขึ้นใหม่กับนางแบบและนายแบบ อาทิ แม่บ้านมีหนวด วุฒิกร คงคา อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีร่วมสมัยภาพถ่ายยุคดิจิตอลเข้ามาจัดการผลงานให้ยิ่งดูลวงมากขึ้นไปอีก เนื้อหาความคิดหลักของมงคล กล่าวถึงความลวงที่ปรากฏอยู่ในหลากหลายบริบทของสังคมจนกลายเป็นเมืองคนลวง ที่ซึ่งมงคลใช้สุนทรียะในการสร้างสรรค์ผลงานบอกเล่าความเจ็บปวดของการซึมซับ รับรู้ จนถ่ายทอดเป็นความลวงในบริบทต่างๆซึ่งปรากฏในผลงานแต่ชุด อาทิ
ผลงานชุดที่ ๑“รูปหล่อ พ่อรวย ควยใหญ่”
กล่าวถึงมายาภาพของคตินิยมในสังคมไทย ซึ่งสะท้อนความไม่เสมอภาคของคน แม้จะเกิดมาเท่าเทียมกันทั้งสมองและมือตีน แต่ต่างฐานะกันก็ย่อมสร้างความลวงให้ผู้คนชื่นชมและหลงใหลไปกับมายาคตินั้น
ผลงานชุดที่ ๒“Repair”
สะท้อนมายาคติของชีวิตลูกผู้หญิงในปัจจุบันที่ต้องพึ่งพาศัลยกรรมความงาม เพื่อเติมแต่งชีวิตให้ก้าวไปสู่ความสมบูรณ์ที่สังคมสร้างมายาลวงไว้ให้หลงตาม
ผลงานชุดที่ ๓ “บัณฑิตตลาดนัด”
สะท้อนความลวงโลกของระบบการศึกษาไทยที่เห็นแก่ระบบทุนนิยม การศึกษากลายเป็นการลงทุน อยากเป็นผู้มีการศึกษาต้องลงทุน ไม่มีทุนต้องกู้ ผลที่ได้จากการศึกษาคือ ภาวะตกงาน(ไปขายของตลาดนัด) และ หนี้สิน
ผลงานชุดที่ ๔ “หมื่นเก้าพันหกร้อยเก้าสิบห้า”
ล้อถึงวันเวลาที่มงคลใช้ชีวิตอยู่ในเมืองคนลวงนี้มายาวนานถึง ๑๙,๖๙๕ วัน ไม่ต่างกับคนอื่นๆที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกความจริงที่ถูกความลวงบดบังไว้ด้วย อาชีพ ยศ ตำแหน่ง บทบาทในสังคมที่ถูกอุปโลกขึ้น
ผลงานชุดที่ ๕ “สังคมนิยม”
โลกอุดมคติที่อาจจะไม่มีจริง แต่มงคลอยากให้สังคมมีส่วนผสมจากผู้คนหลากหลายเพศ ได้มีพื้นที่ในการสร้างสังคมที่ดี เปรียบเหมือนสีครามซึ่งไม่ใช่สีที่มีอยู่จริง มันเกิดจากการผสมสังคมนิยมสะท้อนทัศนคติที่ยังมีหวังของศิลปิน
ผลงานชุดที่ ๖ “สุสานความเลว”
ความดี ความเลว ความโง่ มาจากการเพาะบ่ม เด็กน้อยลืมตาดูโลก ย่อมบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่การดำรงชีวิตในสังคมลวงๆ ย่อมบ่มให้พัฒนาการของคนเป็นไป ไม่ว่ามันจะดี จะเลว หรือจะโง่ ก็ตาม
ผลงานทั้งหมดถูกรังสรรค์ขึ้นภายในระยะเวลาร่วมสิบปีจากกำลังมือ กำลังสมอง กำลังความคิดที่เพาะบ่มผ่านเรื่องราวที่วิ่งเข้ากระทบชีวิตศิลปินเป็นระลอกๆ โลกความจริงที่มงคลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ล้วนฉาบทาไปด้วยความลวง ความจอมปลอม ทั้งรูปธรรมและนามธรรมจนเขาอาจเชื่อไปแล้วว่า..เขาอยู่ในเมืองคนลวงไปแล้วจริงๆ แม้แต่โลกของศิลปะ ในฐานะศิลปินก็หลงไปกับมายาคติของมัน เขาทำศิลปะทุกวัน แต่ละชิ้นส่วนของงานถูกแกะ ถูกปั้น ถูกทา ถูกฉาบ อย่างปราณีตบรรจง จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุจนเกือบเสียแขนขวาในระหว่างสร้างสรรค์ผลงาน มงคลต้องพักรักษาแขนเป็นปี แต่โลกของเมืองคนลวงชวนเขาให้ละทิ้งความจริงอันแสนเจ็บปวดไปสู่ความมานะบำบัดจนเกิดผลสำเร็จเป็นผลงานประติมากรรมสื่อผสมแบบจัดวาง (Installation Art)
ขอเชิญทุกท่านร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 18:00 น.
นิทรรศการ : “เดี่ยวโชว์ : เมืองคนลวง” โดย มงคล เกิดวัน
ศิลปิน : มงคล เกิดวัน
วันที่ : 7 – 26 กุมภาพันธ์ 2557
สถานที่ : PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพระ) กรุงเทพฯ
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : 02-221-3841