เชฟและเจ้าของร้านอาหาร Family Li Imperial Cuisine ได้รับรางวัล Diners Club® Lifetime Achievement Award โดยรางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นส่วนหนึ่งของงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย (Asia’s 50 Best Restaurants Awards)
ดำเนินการจัดงานโดย วิลเลียม รี้ด บิสเนส มีเดีย และสนับสนุนโดย เอส เพลเลกริโน (S.Pellegrino) และ แอคคัว แพนนา (Acqua Panna) โดย เชฟอิวาน ลี จะเข้ารับรางวัลในงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2014 ณ โรงแรมคาเพลล่า ประเทศสิงคโปร์
สำหรับการทำงานในร้านอาหาร Family Li Imperial Cuisine เชฟลีได้สืบทอดสูตรและวิธีการปรุงอาหารที่คิดค้นโดยปู่ทวดของเขา ลี ซุนชิง ผู้เคยทำหน้าที่ดูแลครัวหลวงในพระราชวังต้องห้ามสมัยราชวงศ์ชิง เมื่อปลดเกษียณจากงานในวังหลวง ลี ซูนชิง ได้บันทึกรายละเอียดของรายการอาหารในวัง ตลอดจนวัตถุดิบและทักษะในการปรุงอาหาร และทบทวนรายการอาหารจานโปรดของพระนางซูสีไทเฮาไว้มากมาย
ด้วยความเคารพในมรดกของปู่ทวด เชฟลีจึงเก็บรักษาสูตรอาหารอันล้ำค่าที่สืบทอดกันมาถึงสี่รุ่นในครอบครัวของเขาเป็นอย่างดี ซึ่งการปรุงอาหารโดยปราศจากสารเติมแต่งนี้ มุ่งนำเสนอรสชาติชั้นเลิศของวัตถุดิบชั้นดีตามธรรมชาติ โดยเน้นที่ความกลมกล่อมและความบริสุทธิ์ของรสชาติอาหารเป็นสำคัญ อาหารแต่ละจานถูกปรุงบนเตาไฟอย่างพิถีพิถันและอดทน โดยไม่มีการใช้อุปกรณ์ทำครัวสมัยใหม่เลย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมตามที่ยึดถือกันมาตั้งแต่สมัยของพระนางซูสีไทเฮา
เชฟลีมีส่วนช่วยเหลือในการเปิดร้านอาหาร Family Li Imperial Cuisine ที่กรุงปักกิ่งในปี ค.ศ. 1985 และอีกหลายสาขาทั้งในกรุงเมลเบิร์น โตเกียว และไทเป ต่อมาในปี ค.ศ. 2006 เชฟลีได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคของร้านอาหาร Family Li Imperial Cuisine สาขานครเซี่ยงไฮ้ และสาขาเทียนจิน ซึ่งเปิดตัวในอีกสองปีถัดมา
เมื่อเร็วๆ นี้ในปี ค.ศ. 2010 เชฟลียังได้เปิดร้านอาหาร Family Li Imperial Cuisine ในเขตซุนอี้ของกรุงปักกิ่ง และด้วยปริญญาตรีสาขาการออกแบบตกแต่งภายใน จากสถาบัน Royal Melbourne Institute of Technology ทำให้เชฟลีทำหน้าที่รับผิดชอบการออกแบบตกแต่งบรรยากาศของร้านอาหารที่หรูหราแห่งนี้ด้วย
ณ ฐานการดำเนินงานที่กรุงปักกิ่งแห่งนี้ เชฟลีได้ฝึกอบรมเหล่าพ่อครัวฝึกหัดเพื่อเข้าทำงานที่สาขาเซี่ยงไฮ้และเทียนจิน ตลอดจนทำการทดสอบและทดลองสูตรอาหารจากพระราชวังนับพันสูตรอย่างต่อเนื่อง โดยการพลิกฟื้นอาหารจีนที่สาบสูญไปแล้วย่อมต้องอาศัยนวัตกรรม พรสวรรค์ด้านการสร้างสรรค์ และองค์ความรู้ที่ลึกซึ้งในเรื่องวัตถุดิบ เนื่องจากสูตรอาหารที่เก่าแก่นับพันปีบางสูตรจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่ไม่มีในปัจจุบันหรือสิ่งมีชีวิตที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เชฟลีจึงต้องแสวงหาสิ่งทดแทนในโลกยุคใหม่ที่มีรสชาติเหมือนกับวัตถุดิบดั้งเดิมและต้องมีคุณภาพเทียบเท่ากัน
รางวัล Diners Club® Lifetime Achievement Award เกิดจากการลงคะแนนเสียงโดยสมาชิกของ Diners Club® ในนามของสมาคม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมของโลก ซึ่งประกอบด้วยผู้นำในธุรกิจร้านอาหารระดับโลกจำนวนมากกว่า 900 ท่าน
วิลเลียม ดรูว บรรณาธิการกลุ่ม งาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย กล่าวว่า “เชฟลีได้มุ่งมั่นปฏิบัติงานเพื่อเชิดชูการปรุงอาหารแบบดั้งเดิม และยังส่งต่อองค์ความรู้เกี่ยวกับอาหารในวังหลวงของเขาสู่พ่อครัวรุ่นต่อไป ความทุ่มเทของเขาในการอนุรักษ์อาหารจีนทำให้เขาเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่รางวัล Diners Club® Lifetime Achievement Award อันทรงเกียรตินี้อย่างยิ่ง”
เอ็ดดัวร์โด โทบอน ประธานสมาคม Diners Club® International กล่าวว่า “การนำเสนออาหารชั้นเลิศ ถือเป็นสิ่งที่เราปฏิบัติสืบต่อกันมาในสมาคม Diners Club® International เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบรางวัลให้แก่เชฟอิวาน ลี ในฐานะผู้ยกระดับแบบแผนการปรุงอาหารจีนโบราณให้เป็นที่ยอมรับในแวดวงอาหารระดับสูง ผ่านการใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยมและกรรมวิธีดั้งเดิมในการเตรียมอาหารอย่างประณีต เราจึงขอยกย่องให้เชฟลีและผลงานอันโดดเด่นของเขา เป็นที่ประจักษ์แก่วงการอาหารระดับโลกในงานครั้งนี้”
ฝ่าย เชฟลี กล่าวขอบคุณต่อรางวัลครั้งนี้ว่า “นับเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งที่ผมได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมอาชีพ รางวัลนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้ทีมงาน Family Li Imperial Cuisine มุ่งมั่นรักษาแบบแผนการปรุงอาหารดั้งเดิมต่อไป และเผยแพร่มรดกทางอาหารของจีนให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก”
การรวบรวมรายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
รายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย เกิดจากการโหวตคะแนนของสมาคม The Diners Club® World’s 50 Best Restaurants Academy โดยผลโหวตจากรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมของโลก ปี 2014 ที่มีประเทศในเอเชียตามรายการด้านล่าง จะถูกนำมาคำนวณเพื่อจัดทำเป็นรายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2014
ประเทศต่างๆ ของเอเชีย จากการลงคะแนนในรายการ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก ประกอบด้วย บังกลาเทศ พม่า บรูไน ภูฏาน กัมพูชา จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว มาเก๊า มาเลเซีย มัลดีฟส์ ไมโครนีเซีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย ติมอร์-เลสเต และ เวียดนาม
ผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
หลังการประกาศผลรางวัลในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ผลรางวัลทุกประเภทจะถูกประกาศบนเว็บไซต์ www.theworlds50best.com/asia