(ในภาพ) เปรียน ทนงศักดิ์ (ซ้ายสุด), ทนงค์ ศักดิ์ (ที่ 2 จากซ้าย) และ เดวิด ทอมป์สัน (ที่ 3 จากซ้าย) จากห้องอาหาร “น้ำ” กรุงเทพฯ คว้ารางวัลอันดับ 1 ในงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2014
พร้อมครองตำแหน่ง The S.Pellegrino Asia’s Best Restaurant และ The S. Pellegrino Best Restaurant in Thailand สำหรับงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียในปีนี้ได้รับการสนับสนุนโดย เอส เพลเลกรีโน (S. Pellegrino) และ แอคคัว แพนนา (Acqua Panna) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ โรงแรมคาเพลล่า ประเทศสิงคโปร์
ร้านอาหาร “น้ำ” ในกรุงเทพฯ คว้ารางวัลอันดับ 1 ในงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2014 พร้อมครองตำแหน่ง The S.Pellegrino Asia’s Best Restaurant และ The S. Pellegrino Best Restaurant in Thailand
งานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2014 ถือเป็นการจัดงานครั้งที่สอง ดำเนินการจัดงานโดย วิลเลียม รี้ด บิสเนส มีเดีย และสนับสนุนโดย เอส เพลเลกรีโน (S. Pellegrino) และ แอคคัว แพนนา (Acqua Panna) ซึ่งกำหนดจัดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ณ โรงแรมคาเพลล่า ประเทศสิงคโปร์
เดวิด ทอมป์สัน เชฟชาวออสเตรเลีย คือผู้สร้างความสำเร็จแก่ร้านอาหาร “น้ำ” ในกรุงเทพฯ ผ่านการนำเสนออาหารรสชาติจัดจ้านตำหรับไทยแท้ ซึ่งเกิดจากการนำสูตรอาหารที่เก่าแก่กว่าศตวรรษมาพลิกฟื้นและตีความใหม่ ร้านอาหาร “น้ำ” เริ่มได้รับความสนใจจากนักชิมระดับโลกเมื่อติดอันดับที่ 50 ในงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมของโลกปี 2012 และไต่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 32 ในปีต่อมา ทั้งยังครองอันดับ 3 ในงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียซึ่งจัดเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว
ร้านอาหารอื่นๆ ของเมืองไทยที่คว้ารางวัลจากงานในปีนี้ ได้แก่ ร้าน กากั้น ร้านอาหารชื่อดังในกรุงเทพฯ ซึ่งกลับมาคว้ารางวัลอีกครั้ง (อันดับ 3 ไต่ขึ้นจากอันดับ 7 ปี 2013), ร้าน สระบัว บาย กิน กิน (อันดับ 21), ร้าน โบ.ลาน (อันดับ 28) และ ร้าน อีท มี (อันดับ 37)
นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารหน้าใหม่ที่ได้รับรางวัลในปี 2014 เป็นครั้งแรกถึง 10 แห่ง อาทิ ร้าน อิษยา สยามมิส คลับ ในกรุงเทพฯ ติดอันดับ 31 ตลอดจนร้านอาหารน้องใหม่จากเกาหลี ร้าน Jungsik (อันดับ 20) และ ร้าน Le Moût จากไต้หวัน (อันดับ 24)
จากจำนวนร้านอาหารที่ได้รับรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียปี 2014 ปรากฏว่าเป็นร้านอาหารจากจีนมากที่สุดคือ 16 แห่ง รองลงมาคือญี่ปุ่น 10 แห่ง และสิงคโปร์ 8 แห่ง
ผลรางวัลแบ่งตามประเทศ:
ร้าน Amber (อันดับ 4) ในฮ่องกง ได้รับรางวัล The S. Pellegrino Best Restaurant in China โดยมีร้านอาหารจีนหน้าใหม่ที่ติดอันดับในปีนี้ได้แก่ ร้าน Family Li Imperial Cuisine (อันดับ 46) ในเซี่ยงไฮ้ และ ร้าน Tenku RyuGin (อันดับ 50) ในฮ่องกง
ร้าน Narisawa (อันดับ 2) ซึ่งคว้ารางวัลชนะเลิศจาก 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 2013 ในปีนี้คว้ารางวัล The S.Pellegrino Best Restaurant in Japan เป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยมีร้านอาหารหน้าใหม่ถึงสามแห่งที่คว้ารางวัลซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ได้แก่ ร้าน L’Effervescence (อันดับ 25), ร้าน Sukiyabashi Jiro (อันดับ 38) และ ร้าน Sawada (อันดับ 41)
สิงคโปร์ยังคงติดกลุ่มผู้นำวงการอาหารเอเชียด้วยร้านอาหารที่ติดอับดับถึง 8 แห่ง รวมถึงร้านอาหารหน้าใหม่อย่าง Tippling Club ซึ่งคว้าอันดับที่ 23 ในปีนี้เป็นครั้งแรก ส่วนร้าน Restaurant André ซึ่งได้อันดับ 6 ของผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียในปีนี้ ยังได้รับรางวัล The S.Pellegrino Best Restaurant in Singapore เป็นปีที่สองติดต่อกัน พร้อมกันนี้ แอนเดรีย เชียง เชฟและเจ้าของร้านอาหาร Restaurant André ยังได้รับรางวัล Chefs’ Choice Award อันทรงเกียรติ ซึ่งเกิดจากการลงคะแนนเสียงของผู้ร่วมวิชาชีพในรายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียครั้งนี้
อินเดียมีร้านอาหารที่ติดอันดับถึง 6 แห่ง นำโดยร้าน Bukhara (อันดับ 27) และควบรางวัล The S.Pellegrino Best Restaurant in India
ด้วยความหลากหลายของวัฒนธรรมอาหาร งานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียในปีนี้ ยังมอบรางวัล The S.Pellegrino Best Restaurant in Sri Lanka ให้แก่ร้าน Nihonbashi ในกรุงโคลัมโบ (อันดับ 44) และรางวัล The S.Pellegrino Best Restaurant in Indonesia ให้แก่ร้าน Sarong ในบาหลี (อันดับ 47)
ส่วนเชฟหลันซู เฉิน เชฟหญิงแห่งร้านอาหาร Le Moût ในใต้หวัน ได้ฉลองความสำเร็จหลายชั้น โดยนอกจากร้านอาหาร Le Moût ของเธอซึ่งติดอันดับ 24 ในงานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียแล้ว เธอยังควบรางวัล The S.Pellegrino Best Restaurant in Taiwan อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เชฟหลันซูยังได้รับรางวัลเชฟหญิงยอดเยี่ยมแห่งเอเชียของ เวิฟ คลิกโก (Veuve Clicquot Asia’s Best Female Chef) อีกรางวัลหนึ่งด้วย
ผลรางวัลอื่นๆ:
รางวัล One To Watch Award สนับสนุนโดย Peroni Nastro Azzurro
ได้แก่ ร้าน Tenku RyuGin
ในขณะที่ร้าน Nihonryori RyuGin ในโตเกียวคว้าอันดับ 5 ร้านสาขาในฮ่องกงอย่าง Tenku RyuGin ก็สามารถคว้าอันดับ 50 จากผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียได้เช่นกัน ร้าน Tenku RyuGin เปิดบริการในปี ค.ศ. 2012 โดยยึดมั่นในแบบแผนการปรุงอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศของเชฟเซจิ ยามาโมโตะ ซึ่งนำเสนอบริการอาหารผ่านรูปลักษณ์สมัยใหม่และการต้อนรับที่ดีเยี่ยมสไตล์ญี่ปุ่น
รางวัล Highest Climber Award สนับสนุนโดย Zacapa Rum
ได้แก่ ร้าน Fook Lam Moon
ร้านอาหาร Fook Lam Moon ดำเนินธุรกิจแบบครอบครัวในฮ่องกง ปัจจุบันขยายถึง 29 สาขา โดยสามารถคว้าอันดับ 48 จากผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียปี 2013 และไต่ขึ้นสู่อันดับ 19 ในปีนี้ การนำเสนออาหารกวางตุ้งขนานแท้ด้วยความเคารพในรสชาติและวัตถุดิบแบบดั้งเดิม ทำให้ร้าน Fook Lam Moon ดึงดูดนักชิมทั้งจากในประเทศและจากนานาประเทศเป็นจำนวนมาก
รางวัล Asia’s Best Pastry Chef สนับสนุนโดย Cacao Barry
ได้แก่ เจนีซ หว่อง (Janice Wong)
เชฟเจนีซ หว่อง เจ้าของร้าน 2am: dessertba ในสิงคโปร์ คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นปีที่สองติดต่อกัน แรงบันดาลใจของเชฟเจนีซเกิดจากการเดินทางทั้งในญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ก่อเกิดเป็นขนมหวานที่มีสไตล์และความสวยงามเป็นเลิศ พร้อมรสชาติอันโดดเด่น
รางวัล Highest New Entry Award สนับสนุนโดย LesConcierges
ได้แก ร้าน Jungsik
ในหมู่เชฟรุ่นใหม่ระดับแถวหน้าที่มุ่งมั่นนำเสนออาหารเกาหลีชั้นเลิศในนิยามใหม่ จุงซิค ยิม คือเชฟที่สามารถผสมผสานวัตถุดิบดั้งเดิมของเกาหลีเข้ากับเทคนิคการปรุงอาหารสมัยใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ร้านอาหาร Jungsik แห่งแรกของเขาซึ่งคว้าอันดับ 20 ยังควบทั้งรางวัล Highest New Entry Award ซึ่งสนับสนุนโดย LesConcierges และรางวัล The S.Pellegrino Best Restaurant in Korea พร้อมกัน
ผู้ชนะที่ได้รับรางวัลสำคัญรายอื่นๆ ได้แก่ อิวาน ลี จากร้าน Family Li Imperial Cuisine ในเซี่ยงไฮ้ (อันดับ 46) คว้ารางวัล The Diners Club® Lifetime Achievement Award
วิลเลียม ดรูว บรรณาธิการกลุ่ม งาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย กล่าวว่า “งานประกาศผลรางวัล 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชียมีการพัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการที่มีร้านอาหารหน้าใหม่ติดอันดับมากถึง 10 แห่ง ซึ่งร้านอาหารเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลาย และเสน่ห์ของวงการอาหารเอเชียที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ”
การรวบรวมรายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
รายนาม 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จัดทำโดยสมาคม The Diners Club® World’s 50 Best Restaurants Academy ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้นำในธุรกิจอาหารระดับโลกกว่า 900 ราย ซึ่งร่วมกันคัดเลือกร้านอาหารจากความคิดเห็นระดับมืออาชีพที่มีต่อร้านอาหารทั่วโลก โดยสมาคมฯ แบ่งการดำเนินงานเป็น 26 ภูมิภาค แต่ละภูมิภาคมีคณะกรรมการผู้ตัดสิน 36 คน รวมประธานคณะกรรมการซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการดำเนินงานหนึ่งคน คณะกรรมการแต่ละชุดประกอบด้วยนักวิจารณ์อาหาร พ่อครัว ผู้ประกอบการร้านอาหารและบรรดา “นักชิม” ชั้นสูง โดยแต่ละคนสามารถลงคะแนนเสียงได้เจ็ดคะแนน โดยในเจ็ดคะแนนนั้น กรรมการต้องลงคะแนนอย่างน้อยสามคะแนนให้แก่ร้านอาหารที่อยู่นอกภูมิภาคของตนเอง โดยในแต่ละภูมิภาคจะมีการเปลี่ยนตัวกรรมการอย่างน้อย 10 คนในแต่ละปี โดยพนักงานของผู้สนับสนุนการประกาศผลรางวัล รวมถึงผู้สนับสนุนหลัก ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงหรือมีอิทธิพลใดๆ ต่อผลรางวัล
ผลคะแนนของร้านอาหารในประเทศต่างๆ ของเอเชีย ได้จากการลงคะแนนในรายการ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมระดับโลก และจะนำมาประกาศในรายชื่อ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ซึ่งมีทั้งจากบังกลาเทศ พม่า บรูไน ภูฏาน กัมพูชา จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว มาเก๊า มาเลเซีย มัลดีฟส์ ไมโครนีเซีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย ติมอร์-เลสเต และ เวียดนาม
รายนามผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด สามารถดูได้จากเว็บไซต์ : www.theworlds50best.com/asia
ท่านสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม และค้นหาข่าวสารล่าสุดของงาน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ได้ที่ http://www.theworlds50best.com/asia/en/media-centre-registration.html
เนตรฤทัย ศรีพันธ์ (เนตร)
PR Executive
Vivaldi Public Relations
มือถือ : 089-797-0181
โทรศัพท์ : 02-612-2253 ต่อ 106
อีเมล์ : naterutai.s@vivaldipr.com
