สำหรับโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่อง Timeline จดหมาย ความทรงจำ มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง ทั้งการกลับมากำกับหนังหลังจากว่างเว้นไปนาน3ปีของ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร
และเป็นหนังรักจริงจังเรื่องแรกของเขา รวมถึงเป็นหนังเรื่องสองของ เจมส์ จิรายุ ดาราหนุ่มสุดฮ็อตประจำพศ.นี้ ที่แสดงคู่กับ เต้ย จรินทร์พร ซึ่งรับงานหนังใหญ่นอกค่าย GTH เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมี ป๊อก ปิยธิดา กับ ปีเตอร์ นพชัย สองนักแสดงมากฝีมือร่วมด้วย
ย้อนกลับไปถึงตอนที่ The letter จดหมายรัก หนังแรงบันดาลใจของ(ไม่อยากใช้คำว่าภาคต้นเพราะตัวละครคนละชื่อ เนื้อหาไม่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด) Timeline จดหมาย ความทรงจำ เข้าฉายเมื่อ10ปีที่แล้ว อุ๋ย นนทรีย์ เป็นโปรดิวเซอร์หนังเรื่องนี้ ส่วนผู้กำกับคือ ผอูน จันทรศิริ (เจ๊หมอน เป็นต่อ) ที่กำกับหนังเป็นครั้งแรกและยังเป็นครั้งเดียวจนถึงทุกวันนี้ แต่ The letter จดหมายรัก ก็กลายเป็นผลงานประสบความสำเร็จระดับหนังรักขึ้นหิ้งที่ทำให้คนไทยจำนวนมากร้องไห้คาโรงหนัง กับความรักของ ต้น และ ดิว แม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์บางส่วนระบุว่าบทฟูมฟายมากไปหน่อย
กับ Timeline จดหมาย ความทรงจำ เนื้อหาเป็นเรื่องความรักของ มัท กับ ทัน ที่ฝ่ายชายเสียชีวิตไปก่อนที่ แทน ลูกชายของพวกเขาจะเกิด มัท จมปลักอยู่กับจดหมายและความหลังของรักที่จากไปจนค่อยๆสร้างภาพของ ทัน ในตัว แทน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า คนรักยังอยู่ ทว่า แทน ในวัยรุ่นรู้สึกอึดอัดจึงแอบเลือกเรียนในคณะวารสารศาสตร์ที่มหาลัยที่กรุงเทพฯแทนที่จะเป็นคณะเกษตรในเชียงใหม่ ชีวิตในเมืองหลวง แทน ได้พบกับ จูน สาวน้อยน่ารักสดใสที่มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเองสูง จูน แอบรัก แทน แต่ แทน แอบชอบ รุ่นพี่ซึ่งเป็นญาติของเธอ และต่อมา จูน คือคนที่ทำให้ แทน เปลี่ยนแปลงตัวเองไปตลอดกาล
บทของหนังไม่ค่อยกระชับเท่าที่ควร รายละเอียดเยอะไป ฉากบางฉาก ตัวละครบางตัวก็ไม่มีความจำเป็น ควรถูกตัดออก การเดินเรื่องในช่วงแรกจึงดูฉิบฉับเหมือนจะเร็วแต่ก็ไม่เดินหน้าไปไหน ช่วงท้ายๆหนังถึงเดินเรื่องได้ลื่นไหลและน่าติดตามขึ้น ส่วนเรื่องราวในหนังต้องบอกว่าค่อนข้างเชย แต่ก็อยู่ในระดับพอรับได้ ไม่หวานเลี่ยนหรือฟูมฟายเกินไป
เสียดายที่หนังไม่ได้พัฒนาเนื้อหาให้ทันสมัยเหมือนชื่อเท่าไหร่ แถมยังทิ้งโครงเก่าๆไปเสียอีก เราจึงได้เห็นเฟซบุ้คกับจดหมายโผล่เข้ามาในหนังแบบฉาบฉวย มีเพียงผัดฟักแม้วอย่างเดียวที่ถูกนำมาต่อยอด แถมยังมีการไทอินโฆษณาที่ไม่เนียนเท่าไหร่ เสียงบ่นจากผู้ชมคงไม่สร้างผลดีกับตัวสินค้า ยิ่งมาอยู่ในหนังของผู้กำกับรุ่นใหญ่แห่งวงการหลายคนจึงถึงขึ้นรับไม่ได้
การถ่ายภาพสวยงามมาก วิวทิวทัศน์ ธรรมชาติ สีสดชัดเจน โดยเฉพาะภาพทะเลเรืองแสงที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ในหนังด้วย เป็นจุดเด่นที่สุดของภาพยนตร์รองจากการแสดงของ เต้ย จรินทร์ และ ป๊อก ปิยธิดา สองดาราสาวต่างรุ่นแต่สาดพลังกันชนิดไม่มีใครยอมใคร เต้ย เหมาะกับบท จูน มาก เธอถ่ายทอดภาพรักครั้ง เพื่อนแอบรักเพื่อน และรักเดียวในใจ ได้อย่างละเมียดละไม ไร้ที่ติ เช่นเดียวกับ ป๊อก ที่ถ่ายทอดความรักของภรรยาที่มีต่อสามี และ แม่ที่มีต่อลูกชาย ได้แบบลึกซึ้งสะเทือนใจ ให้แง่คิดกับคนที่เคยหลงลืมคนที่บ้านไป ดูแล้วคงเห็นว่ายังมีความรักที่บริสุทธิ์กว่ารักแบบหนุ่มสาวบนโลกนี้
เจมส์ จิรายุ ในบท แทน ถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับหนังเรื่องแรกของเขา มีฉากแสดงอารมณ์ให้โชว์ความสามารถทางการแสดง บทไม่ได้ดึงคาแรกเตอร์ของเขามาใช้อย่างที่บางคนคาดการณ์ ตรงกันข้าม เขาดึงเอาคาแรกเตอร์ของตัวละครออกมาจนเราลืมภาพซุปเปอร์สตาร์ไปได้ เหลือเพียงหนุ่มบ้านนอกไม่ประสาในเมืองใหญ่ จุดนี้ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้ผู้กำกับ ด้าน ปีเตอร์ นพชัย ยังคงอยู่ในมาตรฐานการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเขา ทำให้ วัฒน์ ชายที่หลงรัก มัท ดูเป็นตัวละครที่แสนอบอุ่น จิตใจดีงาม เปี่ยมสเน่ห์ จนผู้ชมคงอดสงสัยไม่ได้ว่า มัท ปฏิเสธผู้ชายคนนี้ลงได้ยังไง แน่นอนว่า เขาเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในหนังรองจาก จูน
จุดหักมุมของหนังค่อนข้างเซอร์ไพรส์คนดูพอสมควร แม้จะมีบางคนเดาได้บ้าง กระนั้นเหตุการณ์แบบนี้ไม่ค่อยเกินขึ้นกับหนังหรือละครไทย (และถ้าเกิดก็จะเป็นประเด็นอย่างกว้างขวาง) ถือเป็นความกล้าของผู้กำกับ นํ้าหนักของการสูญเสียอาจไม่หนักแน่น แต่ก็สอดรับกับการปูเรื่องและเนื้อหาที่นำไปสู่ตอนจบ ที่เรียกนํ้าตาจากคนดูได้ดีเลยทีเดียว
BUGABOO NEWS / บทวิจารณ์โดย นกไซเบอร์
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)
จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์