สตีฟ โลเปซ เป็นคอลัมนิสต์ฝีมือดี คอลัมน์ที่เขาเขียนถึงชีวิตคนมากมายที่เขาได้พบเจอมา เป็นที่นิยมชมชอบของผู้อ่าน กระนั้น แม้เขาจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่พบเจอผู้คนมากมาย แต่เขาแทบไม่มีเพื่อนเลย คงมิพักต้องพูดถึงเพื่อนหรอก เพราะแม้แต่ครอบครัว เขาก็ไม่มี มีก็แต่อดีตครอบครัว อดีตภรรยา และอดีตลูก เรียกได้ว่า เขาตัวคนเดียว…
จนวันหนึ่ง โลเปซได้พบกับนาธาเนียล คนจรจัดนักดนตรีผู้พลัดตกจากเส้นแบ่งบางๆ ฝั่งอัจฉริยะ ลงสู่ความบ้า ด้วยความเชื่อของโลเปซที่ว่า คนทุกคนต่างมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ทำให้เขาเริ่มตีสนิทกับนาธาเนียล แน่นอนว่าเริ่มต้นจากความต้องการแหล่งข่าวไปเขียนคอลัมน์ แต่เมื่อได้รู้จักนาธาเนียลมากขึ้น ความต้องการแรกเริ่มนั้นก็ยกระดับไปสู่ความต้องการช่วยเหลือให้นาธาเนียลมีชีวิตที่ดีขึ้น โลเปซจัดแจงยัดเยียดนาธาเนียลให้ศูนย์เยียวยาผู้ป่วยจิตเภท จัดหาอพาร์ตเมนต์ให้เขาอยู่ จัดหาผู้เชี่ยวชาญทางดนตรีมาให้ ด้วยหวังว่านาธาเนียลจะได้มีโอกาสแสดงฝีมือสู่สาธารณะ ลามเลยไปถึงความพยายามที่จะพานาธาเนียลไปรักษาทางจิตอย่างจริงจัง ซึ่งนาธาเนียลไม่ได้ต้องการ
นาธาเนียลไม่ได้ต้องการอพาร์ทเมนท์ ไม่ได้ต้องการครูหรือผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี ไม่ได้ต้องการขึ้นเวทีอวดเสียงดนตรีของตนแก่ผู้ฟัง ไม่! แม้แต่พระเจ้า มีอยู่ตอนหนึ่งในภาพยนตร์ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีพยายามยัดเยียดพระเจ้าในนามของเยซูคริสต์ให้ แต่นาธาเนียลกลับบอกว่า เขามีพระเจ้าของเขาเอง และโลเปซนั่นแล้วคือพระเจ้าของเขา กระนั้น แม้จะเรียกโลเปซว่าพระเจ้า แต่นาธาเนียลก็ไม่ได้ต้องการโลเปซในฐานะของพระเจ้า เขาต้องการโลเปซในฐานะเพื่อน เพราะหากสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้า จะสามารถทำให้ใครคนหนึ่งเกิดความรู้สึกอิ่มอุ่น เปี่ยมศรัทธาในใจได้ การที่มีโลเปซเข้ามาในชีวิต สำหรับนาธาเนียล ก็ไม่ต่างอะไรกับการเข้ามาของพระเจ้า เพียงแต่ว่า ในขณะที่นาธาเนียลต้องการโลเปซมาเป็นเพื่อน โลเปซกลับไม่ได้ต้องการเป็นเพื่อนกับนาธาเนียล เหมือนเช่นที่เขาทำกับคนรอบตัว โลเปซปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้าง แม้แต่ครอบครัวของตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับใครคนหนึ่ง ทวีระดับความเข้นข้นขึ้น เขาก็ไม่ลังเลที่จะรีบทำละลายความสัมพันธ์นั้นด้วยการถอยตัวออกมา
แน่นอนว่ากับนาธาเนียลก็ไม่เว้น
การเข้าไปช่วยเหลือนาธาเนียลของโลเปซ ไม่ใช่การช่วยเหลือของเพื่อนที่มีต่อเพื่อน แต่ในฐานะผู้สูงกว่าช่วยผู้ด้อยกว่า ซึ่งนาธาเนียลไม่ต้องกา
ชม The Soloist จบลง หวังว่าเราคงจะมีโอกาสได้หันมองรอบตัว เพื่อหา “พระเจ้า” ที่สามารถทำให้หัวใจของเราอุ่นขึ้น พระเจ้า ที่เดินบนดินเคียงข้างไปกับเรา พระเจ้า ที่ยิ้ม และส่งผ่านถ้อยคำว่า เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก มาสู่เราผ่านทางรอยยิ้มนั้น
พระเจ้า…ที่เราสามารถศรัทธาได้โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ
หาเจอแล้ว รักษาเขาไว้…เพราะชีวิตมันเหงาเกินกว่าที่เราจะโซโล่เดี่ยว
——————————————————————————–
ผู้เขียน : กิติคุณ คัมภิรานนท์
ที่มา : นิตยสาร HI-CLASS
www.HiclassSociety.com