หลังจากที่ เชล์ลีน วู้ดเล่ย์ เคยแสดงคู่กับ อันเซล แอลกอร์ ในหนังเรื่อง Divergent ในบทพี่น้อง ไม่นานทั้งคู่ก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้งกับ The Fault in Our Stars ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายขายดีของ จอห์น กรีน
The Fault in Our Stars สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวขึ้นอันดับหนังทำเงินสหรัฐฯในช่วงซัมเมอร์ โกยเงินแซงหน้าภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์หลายเรื่องไปอย่างเหนือความคาดหมาย แถมยังปลุกกระแสหนังรักในอเมริกาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
หนังเล่าถึง เฮเซล แลงแคสเตอร์ สาวน้อยวัย 16 ปี ที่ป่วยเป็นมะเร็งขั้นรุนแรง เธอต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาและเธอสามารถอาจจากโลกนี้ไปได้ทุกเมื่อ ชีวิตอันแสนหดหู่ของเธอหยุดลงเมื่อได้มาพบกับ ออกัสตัส วอเทอร์ เด็กหนุ่มร่าเริงที่เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งเช่นกัน
เฮเซล กลับมายิ้ม หัวเราะ ได้อีกครั้ง แต่อาการป่วยของเธอก็ยังไม่ดีขึ้น ออกัสตัส อยากทำทุกอย่างเพื่อให้ เฮเซล มีความสุข เขาจึงใช้พรที่ขออะไรก็ได้จากมูลนิธิการกุศลพาเธอไปพบกับนักเขียนเจ้าของผลงานหนังสือที่ เฮเซ ชื่นชอบถึงเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นทริปที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขาและเธอ
บทของหนังเต็มไปด้วยความเศร้า ดราม่าออกจะนำโรแมนติกนิดๆ พูดถึงความตายในมุมมองของเด็กวัยรุ่น มีกลิ่นอายของหนังสู้กับโรคร้ายอย่าง 50/50 และ Now is good ส่วนประเด็นความรักบริสุทธิ์ของหนุ่มสาวทำให้คิดถึงหนังญี่ปุ่นที่ใช้ตัวละครหญิงเป็นตัวดำเนินเรื่องคือ Midnight Sun กับ Crying Out for Love, In the Center of the World
แต่สิ่งที่ The Fault in Our Stars โดดเด่นคือการดัดแปลงจากตัวหนังสือมาเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ดี ต้องชมผู้กำกับที่เลือกถ่ายทอดหนังออกมาได้ครบทุกรสทั้ง ตลกร้าย หวานละมุน ไปจนถึงซึ้งกินใจ นอกจากนี้ยังพัฒนาตัวละครหลักอย่าง เฮเซล ให้มีความน่ารักดูสดใสกว่าฉบับนิยาย รวมถึงเก็บความลับแล้วเฉลยได้ถูกจังหวะ ช่วงส่งให้ตอนท้ายของหนังสร้างตรึงคนดูอยู่หมัด สร้างความแปลกใจและทำให้ผู้ชมอินไปกับหนังได้
การแสดงอันยอดเยี่ยมของ เชล์ลีน ช่วยทำให้หนังน่าสนใจขึ้นมาก เข้ากันกับความเป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์ของ อันเซล พล็อตที่ดูคล้ายจะธรรมดากลับพิเศษขึ้นมา เคมีของทั้งสองลงตัวทีเดียว การกันตัวละครอื่นๆออกไปอยู่วงนอกของ เฮเซล กับ ออกัสตัส ถือว่าได้ผล อารมณ์มุ้งมิ้งจีบกันของทั้งสองชวนอมยิ้มจนเราไปเลยว่าเขาและเธอกำลังป่วยหนัก โลกใบที่มีพวกเขาอยู่ด้วยกันจึงดูสวยงามจับใจ
ภายนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เหมาะกับคนทุกกลุ่ม เพราะมันเต็มไปด้วยความเศร้าจริงๆที่เจ็บลึกทั้งทางกายและทางใจ ของคนที่ไม่สมบูรณ์ทางสุขภาพสองคน ซึ่งเติมเต็มจนความรักสมบูรณ์เสียจนคนที่สมบูรณ์อย่างเราๆพร้อมเสียนํ้าตาให้โดยไม่ลังเล ขณะเดียวกันหนังเรื่องนี้ยังทำให้เรารู้ด้วยว่า นอกจากคนป่วยแล้ว คนรอบตัวคนป่วยก็ได้ความเจ็บปวดในรูปแบบต่างๆที่น่าเห็นใจไม่แพ้กัน
BUGABOO NEWS / บทวิจารณ์โดย นกไซเบอร์
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)
จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์