ออกตัวไว้ก่อนว่า ผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของหนังเรื่องนี้ แม้จะได้ยินเสียงเล่าลือถึงความสนุกสนานจากภาคแรกและภาคสองมาพอสมควร สบโอกาสได้ดู Madagascar ก็เมื่อมันเดินทางมาถึงภาคที่ 3 แล้ว เป็นผลงานกำกับของ อีริค ดาเนลล์ ที่มพร้อมกับทีมพากษ์ชุดเดิมนำโดยดาราตลกอย่าง เบน สติลเลอร์
เรื่องราวครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ แก๊งจากสวนสัตว์ สิงโตอเล็กซ์ เจ้าม้าลายมาร์ตี้ ยีราฟเมลแมน ฮิปโปกลอเรียและ กษัตริย์จูเลียนกับ มัวรีซ,มอร์ท ลูกน้องทั้งสอง ต้องออกเดินทางอีกครั้งเมื่อ พวกเขาไม่คุ้นเคยกับชีวิตในป่าแอฟริกาอันเวิ้งว้างและคิดถึงชีวิตสุขสบายในสวนสัตว์นิวยอร์ก จึงข้ามมาทวีปยุโรปมาตามหาเหล่าแพนกวินที่เมืองมอนติคาโล
ในบ่อนพนัน อเล็กซ์ ตามเจอ แก๊งแพนกวินจอมเก๋า สคิปเปอร์, โควัลสกี้, ริโก้,ไพรเวท และ เมสัน ,ฟิล กับสาวกลิง พากันหนีการตามล่าของ กัปตันดูบัวร์ เจ้าหน้าที่สาวนักล่าสัตว์ที่พิศสมัยหารตัดสัตว์หัวสารพัดมาโชว์ในห้องซึ่งเธอหมายมั่นว่าอยากได้หัวของ สิงโตเจ้าป่าอย่าง อเล็กซ์
คณะสัตว์พเนจรได้รับความช่วยเหลือจากคณะสัตว์เล่นละครที่กำลังเดินสายโชว์ทั่วทวีปเพื่อหวังว่าการแสดงจะเตะตานายหน้าจนได้รับการว่าจ้างให้ไปแสดงที่อเมริกา ความฝันที่จะได้กลับบ้านเกิด(สวนสัตว์นิวยอร์ก)ของ อเล็กซ์ และผองเพื่อนผุดขึ้นมาอีกครั้ง แพนกวินสคิปเปอร์ วางแผนให้ มัวรีซ กับสมุนปลอมตัวเป็นคนซื้อคณะละครสัตว์ไว้
ทว่า ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อคณะละครสัวต์แห่งนี้ไม่ได้แสดงเก่งเหมือนในอดีต เนื่องด้วย เสือโคร่งวิกทอลี ดารานำของคณะขาดความมั่นใจ หลังประสบอุบัติเหตุถูกไฟคลอกจากการแสดง ทำเอา เสือจากัวร์เกีย,สิงโตทะเลสเตฟาโน,หมีซอนยา และสัตว์ตัวอื่นๆพลอยหมดกำลังใจไปด้วย อเล็กซ์ โกหกชาวคณะละครสัตว์ว่าพวกเขาเป็นนักแสดงอยู่อเมริกาและพร้อมที่จะช่วยให้คณะละครสัตว์ได้ไปโชว์นิวยอร์ก ทุกคนจึงกลับมาเชื่อมั่นอีกครั้ง
Madagascar 3 เป็นอนิเมชั่นที่มีความสนุกสนานและความบันเทิงไม่แพ้ Ice Age หรือ Kung fu panda ซํ้าตัวละครยังมีลูกบ้าที่เรียกเสียงฮาได้ดีโดยแฝงอารมณ์ดราม่าในเรื่องบ้านเกิด คือตัวแทนสถานที่ๆผูกพันธ์ อเล็กซ์ คิดมาตลอดว่า ถ้าได้กลับไปที่สวนสัตว์คงมีความสุข แต่เมื่อได้กลับไปอยู่ในกรง สิงโตกับสหายจึงได้รู้ถึงคุณค่าของอิสระภาพ รวมถึงมิตรภาพของ คนในครอบครัว ตามที่ สิงโตทะเลสเตฟาโน เคยกล่าวไว้ สุดท้ายเขาพบว่าสถานที่ไม่ได้มีความหมายเท่ากับบุคคล บ้านเกิดไม่สำคัญเท่าคนในครอบครัว
สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือความเป็นมิวสิคัล มีการนำเพลงดังๆในยุคนี้เข้าไปประกอบช่วยให้เราอมยิ้มไปกับบทเพลงที่คุ้นเคย ช่วยผลักดันอารมณ์สนุกของหนัง นอกจากนั้น ภาพในฉากการแสดงของคณะสัตว์ในช่วงท้ายก็ทำได้ดี มีสีสัน สอดรับกับเสียงเพลงกับซาวด์ดนตรีได้อย่างลงตัว มุขตลกก็เข้าท่าเป็นภาษาสากลเข้าใจง่าย เรียกเสียงหัวเราะกับผู้ชมได้ตลอด ส่วนความเกินจริงในหลายๆฉากนั้นมองให้ดีก็คือสีสัน เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดาของการ์ตูนแอนิเมชั่น
ตอนจบหนังไม่ได้ทิ้งท้ายว่า Madagascar จะมีภาคต่อหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่าหากจบลงเพียงไตรภาคเท่านี้ถือว่าน่าประทับใจและสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว แม้จะไม่ดีเท่า Toy Story 3 แต่ Madagascar 3 ก็เป็นหนังภาคต่อเรื่องหนึ่งที่ทำออกมาได้ดีกว่าภาคแรกๆ
By : นกไซเบอร์
ติดตามต่อได้ที่ : http://cyberbird.exteen.com/20120719/madagascar-3-4
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์ )
เรียนจบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์
