ทายาทแห่งความเที่ยงตรงที่บรรจบกับความประณีตวิจิตร คือ 1815 TOURBILLON เรือนเวลาใหม่ที่ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อบรรลุถึงความเที่ยงตรงสูงสุดด้วยความเสถียรของอัตราการทำงานอันล้ำเลิศ จากการขับเคลื่อนอันทรงพลังของจักรกลทูร์บิญองหมุนรอบหนึ่งนาที ซึ่งเป็นเวลากว่า 200 ปีแล้วที่การประดิษฐ์ทูร์บิญองนั้นยังคงเป็นทางออกสุดอัจฉริยะให้กับการแก้ปัญหาของการประดิษฐ์นาฬิกาได้อย่างแท้จริง ด้วยเพราะนาฬิกาพกส่วนใหญ่นั้นจะถูกเก็บหรือใส่ไว้ในตำแหน่งแนวตั้งเสมอ อิทธิพลของแรงโน้มถ่วงโลกบนบาลานซ์จึงมักมีผลกระทบต่อความผันแปรคลาดเคลื่อนในอัตราการทำงานของเหล่านาฬิกาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเพื่อขจัดผลกระทบอันไม่พึงประสงค์นี้ จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทิศทางของระบบการแกว่งขึ้นลานอย่างสม่ำเสมอ และนำมาสู่การประดิษฐ์ให้บาลานซ์และเอสเคปเม้นท์ถูกติดตั้งอยู่ภายในกรงหมุน ที่เรียกกันว่า ทูร์บิญอง เพื่อทดแทนตำแหน่งความคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น และเพิ่มอัตราความเที่ยงตรงให้กับนาฬิกา นับจากนั้นเป็นต้นมา ทูร์บิญองก็กลายเป็นที่นิยมหลงใหลสูงสุด ด้วยความซับซ้อนของจักรกลขนาดเล็ก และการตกแต่งอย่างงดงามดุจผลงานงานศิลปะที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและความเที่ยงตรงในเครื่องบอกเวลาชั้นสูงเสมอ
ทว่า น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้นาฬิกาที่ติดตั้งด้วยจักรกลทูร์บิญองยังไม่สามารถถูกปรับตั้งเวลาได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ ด้วยเหตุผลเพราะไม่สามารถหยุดการทำงานของทูร์บิญองได้ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2008 นักออกแบบกลไกของ Lange จึงก้าวข้ามขีดจำกัดข้อนี้ไป ด้วยความสำเร็จของการหยุดบาลานซ์ภายในกรงทูร์บิญองหมุนได้โดยตรงและไม่ทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนหรือล่าช้าของการแสดงเวลา โดยทันทีที่เม็ดมะยมถูกดึงออก ระบบจักรกลของเฟืองอันซับซ้อนจะถูกกระตุ้นการทำงาน และกดลงบนสปริงรูปตัว V ที่จะเคลื่อนตัวลงบนเฟืองบาลานซ์ และหยุดการทำงานของบาลานซ์ได้อย่างเฉียบพลัน เช่นเดียวกับใน 1815 TOURBILLON ที่มาพร้อมจักรกลซึ่งผ่านการจดสิทธิบัตรนี้และยังสามารถชมการทำงานของจักรกลอัจฉริยะบางส่วนได้ผ่านทางช่องหน้าต่างเปิดบนหน้าปัด แต่ครั้งนี้ นักวิจัยและพัฒนานาฬิกาของ Lange ได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจับคู่จักรกลหยุดทูร์บิญองเข้ากับจักรกลเข็มวินาทีตีกลับไปที่ศูนย์ (zero-reset mechanism) ที่ผ่านการจดสิทธิบัตรเช่นกัน นั่นทำให้เข็มชี้สตีลสีน้ำเงินของหน้าปัดย่อยแสดงวินาทีสามารถกระโดดได้อย่างฉับพลันไปยังตำแหน่งศูนย์เมื่อเม็ดมะยมถูกดึงออก ซึ่งช่วยให้การปรับตั้งนาฬิกาเป็นไปได้อย่างแม่นยำโดยการปรับตั้งตำแหน่งเข็มนาทีให้อยู่ตรงกับขีดสเกลนาทีพอดีและยังสามารถเริ่มต้นการทำงานของนาฬิกาได้อย่างแม่นยำเช่นกันถึงในระดับหนึ่งวินาที
ภายใต้งานออกแบบอันล้ำเลิศของ 1815 TOURBILLON ยังทำให้มั่นใจได้ถึงการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน เป็นไปตามปรัชญาการสร้างสรรค์เรือนเวลาตามอุดมคติอันแน่วแน่ของ Ferdinand A. Lange ผู้ซึ่งอุทิศปีเกิดให้กับชื่อของเรือนเวลานี้ได้อย่างทรงเกียรติ ทูร์บิญองที่สามารถมองเห็นได้ผ่านทางช่องหน้าต่างเปิดบนหน้าปัดยังเป็นการแสดงเพียงอย่างเดียวที่บ่งบอกถึงความสลับซับซ้อนของนาฬิกาเรือนนี้ และหากเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นก่อนหน้า ช่องหน้าต่างนี้ยังมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่เพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งมิลลิเมตร เป็น 13.2 มิลลิเมตร ขณะที่แกนของทูร์บิญองยังบรรจุด้วยเข็มวินาทีเล็กประดิษฐ์ขึ้นจากสตีลสีน้ำเงินและตัดกันได้อย่างโดดเด่นสะดุดตากับโทนสีอ่อนของหน้าปัด เช่นกันกับการผสมผสานระหว่างตัวเลขอารบิคเข้ากับสเกลนาทีแบบรางรถไฟ ที่ล้วนชี้ชวนให้หวนนึกถึงนาฬิกาในประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของ A. Lange & Söhne
ใยสปริงและบาลานซ์วีลยังคงเป็นการประดิษฐ์ขึ้นภายในโรงงานของตนเอง ด้วยความประณีตพิถีพิถันและสมบูรณ์สูงสุดเมื่อประกอบเข้าด้วยกัน ความเที่ยงตรงของเรือนเวลานี้ยังเป็นผลลัพธ์ที่ได้มาจากงานฝีมือการตกแต่งอันละเอียดอ่อนแม้ในรายละเอียดเล็กๆ บนทุกๆ พื้นผิวของชิ้นส่วนกลไก และยังคงประดับยอด
บนจักรกลทูร์บิญองด้วยเพชรเอนด์สโตน ภายใต้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 39.5 มิลลิเมตรของตัวเรือนซึ่งประดิษฐ์ขึ้นจากทองพิงค์โกลด์หรือแพลทินัม เพื่อมอบความสมบูรณ์กลมกลืนของสัดส่วนพื้นที่ให้กับกลไกจักรกล Lange manufacture caliber L102.1 ด้วยการผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนในตัวเรือนแพลทินัม จึงเน้นย้ำถึงความพิเศษสุดของเรือนเวลารุ่นเอกเฉพาะหนึ่งเดียวนี้ ในฐานะนาฬิกาทูร์บิญองเรือนแรกที่มาพร้อมจักรกลหยุดวินาที และจักรกลเข็มวินาทีตีกลับไปที่ศูนย์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความตั้งใจอันมุ่งมั่นของแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการแสวงหาทางออกให้กับการแก้ปัญหามากมายทางด้านเทคนิคและยังคงเดินหน้าอุทิศตนอย่างเข้มแข็งให้กับการพัฒนาความล้ำเลิศของเรือนเวลาอย่างต่อเนื่องเสมอมา
เมจกา รัตน์ปิยะภาภรณ์
เบอร์โทร : 02-254-8371
อีเมล : mayjaka@pendulum.co.th