Love Rosie มิตรภาพที่เติบโตเป็นความรัก

พล็อตภาพยนตร์เกี่ยวกับเพื่อนรักเพื่อนนั้น ต้องบอกว่าถูกเอามาทำจนชํ้าไปหมดแล้ว แต่ที่ผ่านมาวงการฮอลลีวู้ดยังมีมือดีทั้งคนเขียนบทและผู้กำกับซึ่งพลิกมุมมองดังกล่าวออกมานำเสนอได้แปลกใหม่ จนตราตรึงใจคอหนังไปหลายเรื่อง กับ Love Rosie ความน่าสนใจอยู่ที่สร้างมาจากหนังสือขายดีของ เซซีเลีย อเฮิร์น นักเขียนสาวมากฝีมือ ซึ่งมีฐานผู้อ่านอยู่ประมาณหนึ่ง

ดังนั้น Love Rosie จึงไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ โดยหากทางผู้กำกับ คริสเตียน ดิตเตอร์ สื่อสารจากตัวหนังสือเป็นภาพเคลื่อนไหวได้ดีก็น่าจะเดินตามรอยความสำเร็จของ One Day ได้ไม่ยาก ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับหนังวัยรุ่นอยู่แล้ว ส่วนนักแสดงก็ไม่ธรรมดา ทั้ง แซม คลาฟลิน กับ ลิลลี่ คอลลินส์ ถือว่ามีชื่อเสียงพอสมควร

ตัวหนังเล่าถึง โรซี่ ดันน์ (ลิลลี คอลลินส์) กับ อเล็กซ์ สจ็วต (แซม คลาฟลิน) เพื่อนสนิทชายหญิงที่คบกันมาตั้งแต่เล็ก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อนข้างคลุมเครือระหว่าง มิตรภาพ กับ ความรัก และมันกลายเป็นปัญหาใหญ่เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น โรซี่ กับ อเล็กซ์ ต่างก็เปิดใจคบหากับคนอื่น ขณะเดียวกันก็แอบมองความเป็นไปของอีกฝ่ายอยู่เสมอ แน่นอนว่าด้วยสายตาของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ

หลังงานปาร์ตี้เรียนจบไฮสกูล โรซี่ พลาดตั้งท้อง จึงไม่ได้เรียนต่อ เธอไม่ยอมบอก อเล็กซ์ พร้อมกับปล่อยให้เขาบินไปสู่อนาคต อเล็กซ์ กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดและรู้ความจริง ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หลายปีผ่านไปไม่ว่าทั้งสองจะอยู่ไกลกันแค่ไหน เส้นทางชีวิตของเขากับเธอก็คงวนเวียนกลับมาพบกันเสมอ ด้วยสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ทั้งคู่จึงต้องพยายามอย่างมากในการห้ามใจไม่ให้ รักกัน

Love Rosie เป็นหนังรอมคอม (โรแมนติกคอเมอดี้) หวานๆ แต่ไม่ถึงกับเลี่ยน ผู้กำกับเล่าเรื่องจากหนังสือต้นฉบับออกมาได้ดี เล่นกับโชคชะตาและการคลาดกันไปมาของตัวละครได้อย่างมีชั้นเชิง โดยมีมุขตลกแทรกอยู่ตามรายทาง ระยะเวลาสิบปีของภาพยนตร์ถูกทำออกมาได้กระชับ เป็น One Day ในพาร์ทที่สว่างกว่า แถมยังมีจุดเด่นคือการให้ความสำคัญในรักครั้งแรกที่ต่อยอดออกมาเป็นรักแท้ แม้จะเพ้อฝันไปบ้างก็ยังดูสนุก

สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือการใช้เพลงเป็นตัวแทนการเปลี่ยนผ่านของเวลา แถมยังแฝงนัยบางอย่างในเนื้อหาได้น่ารักทั้ง Crazy in love และ Fuck You (Very Much) สำหรับจุดอ่อนคือการเดินเรื่องค่อนข้างเป็นไปตามสูตรสำเร็จ แน่นอนว่าตอนจบคาดเดาได้ไม่ยาก ไม่มีฉากหักมุมหรือเซอร์ไพรส์คนดู อีกอย่างที่เสียดายคือการพูดถึงเรื่องความฝันในชีวิต ซึ่งทำออกมาได้ฉาบฉวยเกินไป แต่ดันไปขยี้ประเด็นผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ได้แทน

การแสดง ลิลลี่ คอลลินส์ กับบท โรซี่ ดูสวยมาก ตัวละครของเธอมีเสน่ห์ แถมยังมีพัฒนาการทั้งด้านอารมณ์ภายในและบุคลิกภายนอก เธอเหมาะกับหนังประเภทนี้มากกว่าหนังแอ็คชั่นแฟนตาซีแบบ The Mortal Instruments ด้าน แซม คลาฟลิน กับการรับบทนำเป็นครั้งแรกถือว่าสอบผ่าน เขาไม่ได้หล่อหรือดูดีที่สุดในเรื่อง แต่ก็มีดีพอที่จะดึงดูดผู้ชมสาวๆให้หลงรักในตัว อเล็กซ์ ที่สำคัญคือเคมีของทั้งสองเข้ากันแบบลงตัว

ด้วยความหลากหลายครบรสทั้ง ตลก ดราม่า และโรแมนซ์ บวกกับพลังอันยอดเยี่ยมของนักแสดง ทำให้หนังเรื่องนี้ น่ารัก อบอุ่น ซาบซึ้ง สัมผัสใจคนดูได้ไม่ยาก และถ้าปีที่แล้วมี About time เป็นหนังรักแห่งปี ปีนี้ Love Rosie ก็กำลังเดินทางไปสู่จุดนั้น

BUGABOO NEWS / บทวิจารณ์โดย นกไซเบอร์

สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)

จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์

 

 

You may also like...