พูดกันตามตรงทุกการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ มวยปล้ำ น่าจะเป็นหนึ่งในหลายๆกีฬาที่คนส่วนใหญ่หมางเมิน ในสายตาชาวโลกมันคือกีฬาป่าเถื่อน ใช้แต่พละกำลัง โดยเฉพาะคนเอเชียนี่แทบไม่รู้เลยทั้งกติกา การนับคะแนน และ การตัดสินผลแพ้ชนะ ส่วนบ้านเราคุ้นเคยแต่มวยปล้ำแบบเตี๊ยมกันของสหรัฐฯ
Foxcatcher เป็นหนังที่จะทำให้คุณรู้จักและเข้าใจกีฬาประเภทนี้มากขึ้น นำแสดงโดย แชนนิ่ง ทาทัม กับ มาร์ค รัฟฟาโล่ ผลงานการกำกับของ Bennett Miller ผู้กำกับหนุ่มที่เคยสร้างชื่อจากหนังกีฬาแนวเดียวกันอย่าง Moneyball ซึ่งที่เหมือนอีกอย่างคือภาพยนตร์ทั้งสองสร้างมาจากเรื่องจริง
หนังเล่าถึง เดฟ (มาร์ค รัฟฟาโล่) และ มาร์ค (แชนนิ่ง ทาทัม) ชูทส์ สองพี่น้องนักมวยปล้ำทีมชาติสหรัฐฯ ผู้ยิ่งใหญ่ ดีกรีเหรียญทองโอลิมปิก และแชมป์มวลปล้ำโลก เดฟ ผู้พี่เป็นนักมวยปล้ำและโค้ช ส่วน มาร์ค ผู้น้องเป็นนักกีฬาดาวรุ่งที่ทุ่มเททั้งชีวิตให้กีฬาชนิดนี้ จอห์น ดู ปองท์ (สตีฟ คาเรล) มหาเศรษฐีที่ชอบกีฬามวยปล้ำทุ่มทุนดึง มาร์ค มาร่วมทีมที่ชื่อ Foxcatcher ของเขา ไม่นาน จอห์น ซึ่งมีปมโหยหาเกียรติยศ ชื่นชมถ้วยรางวัล ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้างก็เริ่มทำหลายสิ่งหลายอย่างให้ มาร์ค อึดอัด เดฟ จึงยอมย้ายมาร่วมทีมด้วยเพราะต้องการช่วยเหลือน้องชาย ก่อนที่ต่อมาจะเกิดโศกนาฏกกรรมที่สั่นสะเทิอนวงการกีฬาสหรัฐฯ
บทเจ๋งสมกับเป็นหนังตัวเต็งรางวัล ดราม่าหนักหน่วง ชีวิตจริงของ มาร์ค กับ เดฟ คือวัตถุดิบชั้นดีอยู่แล้ว นำมาปรุงแต่งเล็กน้อยก็กลายเป็นเรื่องเล่าชั้นเลิศ ดูแล้วอดนึกถึง The Fighter ไม่ได้ คล้ายกันทั้งการเป็นหนังกีฬาต่อสู้ และมีความสัมพันธ์ของพี่น้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงแต่ใน Foxcatcher ความสัมพันธ์ซับซ้อนกว่า(ฉากตัวละครชายกอดรัดเล่นมวยปล้ำพาลให้คิดลึกจริงๆ) รวมถึงภาพรวมหนังก็มีความหม่นหมองกว่า มีการสำรวจจิตใจมนุษย์แบบเข้มข้น ขณะที่องค์ประกอบหลายอย่างดูจงใจที่จะส่งให้มันเป็นหนังสายรางวัลเกินไปนิด ทั้งการจมดิ่งสู่ความหดหู่ เชิดชูอเมริกา จับประเด็นความเหลื่อมลํ้าทางสังคม และสอดแทรกเรื่องเพศ
การดำเนินเรื่องราบเรียบมีข้อเสียคือทำให้หนังดูเนือย ใครไม่ชอบหนังแนวนี้มีหลับ ข้อดีคือมันสอดรับกับบรรยากาศคลุมเครือ ลึกลับ ไม่แน่นอนในเรื่อง ขณะที่ช่วงท้ายหนังกดดันผู้ชมพอสมควร นำเราไปสู่บทสรุปอันเลวร้ายได้สะเทือนใจ ไม่สาธยายอะไรมาก ปล่อยให้เราได้ครุ่นคิดเอง แม้บางคนอาจจะพอรู้เนื้อหามาก่อน แต่หนังก็ยังทำให้คนดูตกใจและประหลาดใจอยู่ดี
จุดเด่นที่สุดของหนังหนีไม่พ้นการแสดงของดารานำ แชนนิ่ง ทาทัม ทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเขาเป็นนักมวยปลํ้าจริงๆ ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางสีหน้าแววตาได้ดี ฉายแววนักแสดงเจ้าบทบาท เป็นผลงานที่น่าจดจำของเขา มาร์ค รัฟฟาโล่ ในบท เดฟ แสดงได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน หนวดเครา กับรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้บดบังความสามารถของเขาเลย เดฟ จึงเป็นตัวละครที่คนดูน่าจะรักมากที่สุด แต่ที่เซอร์ไพรส์เห็นจะเป็น สตีฟ คาเรล ที่เล่นเป็น จอห์น ดู ปองท์ เมคอัพทำเอาผมจำเขาแทบไม่ได้เลย บุคลิกน่าเกรงขามสุดๆ ขัดกับบทเบาๆในหนังตลกเรื่องก่อนๆ ของเขาแบบสิ้นเชิง ครั้งนี้จึงเป็นการพลิกคาแร็กเตอร์ครั้งสำคัญในชีวิต สตีฟ เลย
วงการกีฬาต่อสู้ นักกีฬาก็เหมือนหมาล่าเนื้อที่เอาร่างกายกับชีวิตมาเดิมพันในสนามแลกกับเศษเนื้อ โดยที่พรานหรือเจ้าของแทบไม่ต้องออกแรงอะไร เพียงแค่สั่งแล้วนั่งกระดิกเท้ารอ ก็ได้ทั้งเนื้อชิ้นใหญ่และเงินทอง แถมถ้าหมาตัวไหนแก่จนใช้การไม่ได้แล้ว พวกเขาก็พร้อมจะเขี่ยทิ้งเพื่อหาหมาหนุ่มตัวใหม่มาแทนที่ทันที
BUGABOO NEWS / บทวิจารณ์โดย นกไซเบอร์
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)
จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์