พิพิธภัณฑ์ เรื่องเล่า และภูมิปัญญาท้องถิ่น เขตราษฎร์บูรณะ

แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคงหนีไม่พ้น “พิพิธภัณฑ์” ปฎิเสธไม่ได้ว่าบ้านเมืองเรา การให้ความสำคัญและการจัดการให้พิพิธภัณฑ์ต่างๆนั้น ดำรงคงอยู่ได้ ในท่ามกลางความเชี่ยวกรากของวัฒนธรรมตวันตกนั้น เป็นเรื่องที่ยากเย็นเข็นใจ หลายพิพิธภัณฑ์ต้องล้มหายตายจาก ที่อยู่ก็ร่อแร่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา

หลายคนมองว่าพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องของเก่าเก็บ หมดเวลาที่จะค้นคว้าหาคำตอบกับของที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายศตวรรษ หากแต่อีกด้าน การไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์นั้น เป็นการเดินย้อนอดีตไปดูความเป็นมาเป็นไปของวัฒนธรรม  การเรียนรู้วัฒนธรรมคือการเรียนรู้ทั้งตนเอง ผู้อื่น สิ่งอื่นและสัตว์อื่น ฯลฯ วัฒนธรรมคือทุกสิ่งทุกอย่างที่แทรกซึมอยู่ในชีวิตเรา มนุษย์จึงจำเป็นต้องเรียนรู้วัฒนธรรม

“พิพิธภัณฑ์ เรื่องเล่า และภูมิปัญญาท้องถิ่น : เขตราษฎร์บูรณะ” นี่คือหนึ่งโครงการดีๆที่จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้คนหันมาสนใจแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่ง การเที่ยวพิพิธภัณฑ์คงไม่น่าเบื่ออย่างที่ใครๆคิด

กำหนดการ “พิพิธภัณฑ์ เรื่องเล่า และภูมิปัญญาท้องถิ่น : เขตราษฎร์บูรณะ”
วันที่ : 26  สิงหาคม  2555
สถานที่ : พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตราษฎร์บูรณะ และสถานที่สำคัญในพื้นที่

ผู้เข้าร่วมสามารถเลือกเดินทางได้สองวิธี
1.   พบกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ข้างหอประชุมใหญ่ รถจะออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เวลา  08.30 น.
2.  พบกันที่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตราษฎร์บูรณะ ซอยสุขสวัสดิ์ 27     แขวงบางปะกอก  เขตราษฎร์บูรณะ (ติดกับวัดประเสริฐสุทธาวาส) เวลา  09.00 น.

08.30 น.  เดินทางออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

09.00 น.  ชมวัดราษฎร์บูรณะ วัดที่มีชื่อเดียวกับชื่อเขต นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมเรือสำเภาจำลอง รับฟังประวัติความเป็นมาของสิ่งก่อสร้างต่างๆ และการค้นพบวัตถุโบราณจากพระสงฆ์ซึ่งเป็นคนในพื้นที่และอยู่ในเหตุการณ์จริง

10.00 น.  ชมวัดแจงร้อน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายและได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ อุโบสถโดดเด่นด้วยลายปูนปั้นรูปผลไม้และสัตว์ต่างๆ  เช่น  ทับทิม น้อยหน่า มะม่วง สับปะรด กบ ปลาทอง ปลาหมึก ปลาตีน ปู กระต่าย ค้างคาว ช้างสามเศียร แพะ และหมาจู เป็นต้น วิหารมีลายปูนปั้นสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ลายบนฐานชุกชีและบนขอบประตูเป็นศิลปะสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อแดง” พระพุทธรูปปางสมาธิทำมาจากศิลาแลงสีแดง ศาลาการเปรียญมีหน้าบันทำเป็นลายปูนปั้นรูปหมูป่ากำลังโผล่หน้าออกมาจากปากถ้ำ

11.00 น.  สัมผัสวิถีชีวิตชาวสวนหมาก หมากเป็นของขึ้นชื่อของเขตราษฎร์บูรณะที่กำลังจะสูญหายไป รับฟังปัญหาที่แท้จริงจากเจ้าของสวน พร้อมทั้งชมการสาธิตการขึ้นหมากซึ่งหาดูได้ยากในปัจจุบัน

12.00 น.  รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 น.  ชมวัดประเสริฐสุทธาวาส วัดโบราณที่ยังปรากฏใบเสมาเดี่ยวทำจากหินทรายแดง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเสมาที่มีมาก่อนสมัยอยุธยา ต่อมาได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีอิทธิพลของศิลปะจีนปรากฏอย่างชัดเจน พระประธานในวิหารเป็นทำจากศิลาสีแดงลงรักปิดทองมีนามว่า “พระสร้อยสุวรรณรัตน์” วัดประเสริฐสุทธาวาสเป็นวัดแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสามก๊กประดับภายในอุโบสถทั้งสี่ด้าน

13.30 น.   ชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตราษฎร์บูรณะ พิพิธภัณฑ์ในชุมชนเมืองที่ยังมีความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากท้องถิ่น เนื้อหาการจัดแสดงโดดเด่นด้วยวิถีชีวิตชาวสวนหมาก มีการจำลองต้นหมาก พร้อมทั้งจัดแสดงอุปกรณ์การขึ้นหมาก ที่ไสหมาก มีดเจียนหมาก ปลอกมีดที่ทำจากกาบหมาก เนียนที่ใช้คดน้ำพริกทำจากกาบหมาก นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์โบราณของโรงสี เครื่องจักสาน เครื่องดินเผา รวมถึงรูปเคารพและงานศิลปกรรมทางศาสนา เช่น เทวรูปหินทราย ชิ้นส่วนเศียรพระพุทธรูปปูนปั้น ลายปูนปั้นประดับฐานซุ้มเสมา และฉัตรสำหรับพระพุทธรูปยืน เป็นต้น

14.00 น.  รับฟังเรื่องเล่าจากผู้อาวุโสในพื้นที่ซึ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของเขตราษฏร์บูรณะมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน พร้อมชมการสาธิตต่างๆ ได้แก่ การทำว่าวจุฬาแบบโบราณเพื่อใช้ในการแข่งขัน การสานปลาตะเพียน การทำเชือกกล้วย การทำบรรจุภัณฑ์ธรรมชาติจากใบตอง การทำน้ำมะตูม และการตัดพวงมะโหด (สามารถทำตามได้)

16.00 น.  เดินทางกลับ

 

* ขอเรียนเชิญทุกท่านแต่งกายสบายๆ ตามแบบไทย  

You may also like...