เมื่อ 5 ปีก่อนถ้าพูดชื่อ เมลิสซ่า แม็คคาร์ธี่ คอหนังคงทำหน้าสงสัยว่าเธอคนนี้คือใคร แต่หากเป็นในช่วง2-3ปีมานี้ เมลิสซ่า สาวอ้วนอารมณ์ดีกลายเป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์มากขึ้น
โดยล่าสุดเธอเพิ่งได้รับการจารึกชื่อบน Hollywood Walk of Fame ในปี 2015 ฉลองการเป็นนักแสดงนำในหนังใหญ่แบบเต็มตัวครั้งแรกในเรื่อง Spy
หลายคนได้พบหน้าเธอครั้งแรกในหนัง The Hangover Part 3 กับบทนักแสดงสมทบเล็กๆแต่เด่นมากๆ ก่อนที่เธอจะก้าวกระโดดมาเป็นนักแสดงนำในเรื่อง Tammy แน่นอนว่าสิ่งที่ส่งให้ เมลิสซ่า มาไกลขนาดนี้คือความสามารถล้วนๆ และ Spy คือบันไดก้าวสำคัญในการเดินทางสู่ตำแหน่งเจ้าแม่หนังตลกคนใหม่ของฮอลลีวู้ด
Spy เล่าถึงชีวิตอันอาภัพของ ซูซาน คูเปอร์ (เมลิสซา แม็คคาร์ธีย์) เจ้าหน้าภาคทฤษฎีที่ทำงานนั่งโต๊ะในห้องใต้ดินของ CIA เธอคือเบื้องหลังความสำเร็จของภารกิจต่างๆในองค์กรที่ไม่ค่อยมีใครรู้ แต่เหตุการณ์พลิกผันเมื่อ ไฟน์ (จู๊ด ลอว์) เพื่อนร่วมงานภาคสนามของเธอถูกสังหาร สายลับระดับสูงอย่าง ริค ฟอร์ด (เจสัน สเตแธม) ถูกเปิดเผยตัว เธอจึงเป็นไม่กี่คนใน CIA ที่สามารถปลอมตัวเพื่อจับตาป้าหมายต่อได้
ซูซาน อาสาเป็นสายลับภาคสนามมือใหม่รับภารกิจในการติดตาม เรย์น่า โบยานอฟ (โรส เบิร์น) ลูกสาวของนักค้าอาวุธไปทั่วยุโรปท่ามกลางการคัดค้านของ ริค ฟอร์ด แต่ไม่เป็นผล เธอได้ปัดฝุ่นเอาฝีมือการฝึกฝนภาคปฏิบัติกลับมาใช้งานอีกครั้ง ส่วนภารกิจที่แรกเริ่มเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆธรรมดาก็เริ่มทวีความรุนแรงและมีความอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พอล ฟีก ผู้กำกับท็อปฟอร์มกับ Spy เขาทำให้หนังเรื่องนี้เป็นเอ็คชั่นคอเมอดี้ชั้นดีที่ สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมมากๆ มุขตลกฮาโดนแทบทุกเม็ด ทะลึ่งเล็กน้อยแต่ไม่หยาบคาย ล้อเลียนเสียดสีหนังสายลับได้เจ็บแสบในแบบอเมริกันจ๋า จุดนี้ทำให้นึกถึงสิ่งที่หนังเรื่อง Kingsman The Secret Service เคยทำไว้เมื่อปีที่แล้ว
หนังออกแนวเชิดชูผู้หญิงนิดๆ รวมถึงให้กำลังใจสาวๆที่บุคลิกไม่ดีแต่มีความสามารถว่าสักวันหนึ่งพวกเธอก็เป็นคนสำคัญได้ถ้ามีความอดทนและตั้งใจเพียงพอ ส่วนนี้ลิงค์เข้ากับชีวิตจริงของ เมลิสซ่า แบบลงตัวสุดๆ ขณะเดียวกันก็ยังสะกิดคนหล่อคนสวยทั้งหลายว่าอย่าได้สบประมาทสาวอ้วนหรือหนุ่มตุ้ยนุ้ยเชียว เสียตรงหนังที่ขี้เล่นมากไปหน่อย ความสมจริงกับความเข้มข้นจึงมีไม่มาก เนื่องจากทุกครั้งที่โทนหนังจะออกแนวซีเรียสก็จะถูกฉากตลกมาตัดอารมณ์ ไม่ค่อยมีช็อตให้ลุ้นหรือเอาใจช่วย ดำเนินเรื่องในมิติเดียว
ด้านการแสดง เมลิสซ่า ยอดเยี่ยมสุดๆ เธอแสดงตลกได้เป็นธรรมชาติมาก ทำให้ ซูซาน คูเปอร์ กลายเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ น่ารัก ครองใจผู้ชมได้ไม่ยาก ความสำเร็จในโลกการแสดงของเธอช่วยพิสูจน์ว่ารูปร่างหน้าตาไม่ใช่อุปสรรคในชีวิต (เธอทำให้คนดูเห็นว่าคนอ้วยก็มีความสวยในแบบของพวกเธอ) สำหรับ เจสัน สเตแธม ต้องบอกว่าเป็นบทที่รั่วบวกเพี้ยนที่สุดเรื่องหนึ่งของเขา นับถือความกล้าของเขาที่ทำลายคาแร็กเตอร์โหดๆเถื่อนๆของตัวเองจนหมด แต่คนที่ขโมยซีนในฝ่ายชายกลับเป็น ปีเตอร์ เซราฟิโนวิคซ์ ในบท อัลโด้ พี่แกเล่นใหญ่กลบทุกคนในฉากเลย
Spy เป็นภาพยนตร์ตลกระบายความเครียดชั้นดี ที่มีการไล่ล่าดุเดือดมาเสริมความสนุก เพิ่มอรรถรสด้วยบรรยากาศสวยๆในทวีปยุโรป สร้างเสียงหัวเราะให้คนดู แถมยังฝากรอยยิ้มกลับบ้านด้วย
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)
จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์