DEBUT DE LUXURY NATURE by Comfort

Comfort Tiffany KV_H_ori

ที่มาแห่งความหอมหรูหราแบบฝรั่งเศส

พิเศษเฉพาะเพื่อน้ำยาปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ท ลักเชอรี่ เนเชอร์ คอลเลคชั่นใหม่

คงจะไม่ผิดนักหากจะพูดว่าผู้หญิงและดอกไม้นั้นเปรียบเสมือนที่สุดแห่งความงามของโลกใบนี้ และทั้งสองสิ่งนี้ก็มีความเหมือนกันตรงที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่เกิดจากความงามภายนอกและความหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่แทรกซึมอยู่ในทุกผิวสัมผัส และมนต์สะกดจากความหอมนี้ก็เป็นที่รู้จักและนิยมกันมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ ในรูปแบบของเครื่องหอมหรือน้ำหอม ซึ่งเป็นเสมือนอาภรณ์คู่ผิวกายอันทรงเสน่ห์

คำว่า น้ำหอม (Perfume) นั้นมีที่มาจากภาษาละตินว่า “Fumum” ซึ่งแปลว่า ควัน อันสื่อถึงกลิ่นที่เกิดจากการเผายางไม้หรือยางสน เพื่อใช้เป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมต่างๆ รวมถึงการนำมาใช้ประทินผิวและเสริมกลิ่นหอมให้กับบุคคลมาหลายชั่วอายุคน จนเมื่อถึงยุคกลาง ได้มีการการค้าขายระหว่างประเทศแถบกลางและแถบตะวันออกไกล ทำให้ชาวยุโรปได้ค้นพบเครื่องเทศ และกลิ่นใหม่ๆ อีกมากมาย กระทั่งถึงศตวรรษที่ 16 เมืองกราส (Grass) ประเทศฝรั่งเศส ก็ได้ถูกเลือกให้เป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำหอม ซึ่งนับเป็นวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของตลาดน้ำหอมประเภท Fine Fragrances ที่มีความหรูหราและมีราคาแพง สำหรับชนชั้นสูงที่นิยมใช้น้ำหอม (Eau De Cologne) ที่มีกลิ่นหอมฟุ้งของมัสก์และเครื่องหอมที่สกัดได้จากตัวชะมดฉีดพรมแทนการอาบน้ำ โดยเฉพาะในเวลาต่อมาเมื่อน้ำหอมแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Houbigant, Roger & Gallet, Guerlain และยี่ห้ออื่นๆ เริ่มจำหน่ายน้ำหอม ก็ยิ่งทำให้ความนิยมในการใช้น้ำหอมมีมากยิ่งขึ้น จนมีความรุ่งเรืองสูงสุดในศตวรรษที่ 20 ที่ความหอมนั้นเป็นดั่งเครื่องประดับชิ้นสำคัญของบุคคลในทุกชนชั้น

ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ก็เปรียบเสมือนเป็นเครื่องประดับที่สร้างความโดดเด่นและกระตุ้นประสาทสัมผัสได้อย่างน่าอัศจรรย์ และเป็นเสมือนเวทย์มนต์ที่เราสามารถเสกสรรได้ด้วยตนเอง ผู้คนส่วนใหญ่ใช้น้ำหอมก็เพื่อสร้างเอกลักษณ์ ความโดดเด่น และบ่งบอกถึงรสนิยมและตัวตนของแต่ละบุคคล

ที่มาของกลิ่มหอมอันเป็นเอกลักษณ์นั้น ก็คือกรรมวิธีอันพิถีพิถันและเต็มไปด้วยการผสมผสานอันลงตัวของศาสตร์และศิลป์ การรังสรรค์น้ำหอมในปัจจุบันนี้นับเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ซึ่ง Modern Fragrance มีความโดดเด่นคือการสร้างเอกลักษณ์ทางกลิ่น ซึ่งได้มาจากการรวมกันของกลิ่นที่สกัดมาได้จากวัตถุดิบอันหลากหลาย และวัตถุดิบแต่ละชนิด ก็จะให้เอกลักษณ์ของกลิ่นที่แตกต่างกันไป เช่น การผสมกันของมวลดอกไม้นานาชนิดก็จะให้กลิ่นที่หอมหวาน เช่น Jardin de Bagatelle การผสมกันของกลิ่นดอกไม้บางประเภทก็จะให้ความหอมสดชื่น เช่น Orange Blossom และการผสมกันของกลิ่นแอปริคอทและดอกลิลลี่ที่ให้ความหอมแบบเปรี้ยวซ่า เป็นต้น ซึ่งการที่จะได้มาซึ่งกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์นั้น ไม่เพียงแต่จะต้องมีกระบวนการคัดเลือกดอกไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวเท่านั้น แต่ยังต้องผ่านวิธีการปรุงแต่งขึ้นจากความเข้าใจในอารมณ์ความรู้สึกอันเป็นศิลปะของผู้ปรุง รวมไปถึงการใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ช่ำชอง เพื่อที่จะสามารถรู้ได้ว่ากลิ่นที่เกิดระหว่างการปรุงน้ำหอมจะเป็นกลิ่นลักษณะใด บ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกใด เพื่อให้ได้เป็นกลิ่นที่มีความลงตัวและสะท้อนถึงอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องการได้อย่างลงตัว

ในยุคปัจจุบัน ความหอมไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของสัมผัสทางกลิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่สื่อถึงความทันสมัยได้เฉกเช่นเดียวกับความนิยมของแฟชั่นอื่นๆ  โดยเทรนด์ที่กำลังเป็นที่จับตามองในยุคปัจจุบันนั้น สะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมอันหรูหรา โดยมีแรงบันดาลใจมาจากหมู่มวลดอกไม้นานาพรรณ เช่นการสร้างสีสันและลวดลายบนเสื้อผ้าแบรนด์ดัง โดยการนำเอาแพทเทิร์นของดอกไม้ไปพิมพ์ลงบนเสื้อผ้าและรองเท้า อาทิ Diorama SS15 by Dior รองเท้ายี่ห้อ Toms และเสื้อผ้า Winter Collection ของ D&G เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกนุ่มนวลอ่อนโยน หรือการนำเอาสีของดอกพีโอนี่ไปออกแบบเป็นสีลิปสติกของ Mac รวมถึง Rosee Face mask ยี่ห้อ Fresh ที่มีการใส่กลีบกุหลาบและน้ำกุหลาบลงไปในเนื้อผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและสร้างความเป็นเอกลักษณ์  และแรงบันดาลใจของนักปรุงน้ำหอมระดับโลกนั้น ก็มีที่มาไม่แตกต่างกันกับเทรนด์ของแฟชั่นนั่นคือต้องการสร้างความหอมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนตัวตนของผู้ใช้อย่างไม่ตกกระแส

และนี่คือที่มาและแรงบันดาลใจของปรากฏการณ์ใหม่แห่งความหอม ที่คอมฟอร์ทร่วมกับนักปรุงน้ำหอมชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงระดับโลก โจแอนนา โมแนง ได้รังสรรค์ความหอมเฉพาะสไตล์ฝรั่งเศสมาพัฒนาเป็นน้ำหอมกลิ่นใหม่ของน้ำยาปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ท ลักเชอรี่ เนเชอร์ ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติจนกลายมาเป็นกลิ่นหอมใหม่ที่หอมนุ่ม มีเสน่ห์ น่าค้นหา ถึง 4 กลิ่นสะท้อนรสนิยมของผู้หญิง 4 รูปแบบ ได้แก่

Comfort Luxury Nature_Enchanted

เอนชานท์ (Enchanted)

กลิ่นหอมดั่งต้องมนต์ที่ให้ทั้งความรู้สึกหรูหราและละเมียดละไมไม่ต่างจากดอกไฮเดรนเยียสีม่วง ผ่านการผสมผสานระหว่างกลิ่นหอมของดอกไม้ ผลไม้และอำพัน ความสดชื่นที่ได้จากกลิ่นผลไม้ของท็อปโน้ตเช่น ซิทรัส แอปริค็อตและแพสชั่นฟรุ้ต ค่อยๆ พาไปสู่ความนุ่มนวลของดอกไม้อย่างไวโอเล็ตและลิลลี่ ก่อนเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นด้วยอำพันและวานิลาที่ใช้เป็นเบสโน้ต ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความลุ่มลึกให้กลิ่นหอมงดงามราวต้องมนต์

Comfort Luxury Nature_Darling

ดาร์ลิง (Darling)

เสน่ห์อันหอมหวานอ่อนใสของมวลดอกไม้สีขาวที่เปี่ยมไปด้วยความสดชื่นแรกแย้มดั่งฤดูใบไม้ผลิ คือตัวแทนของกลิ่นดาร์ลิงที่หอมอบอวลอยู่รอบกาย โดยมีดอกไม้แสนหวานอย่างพิโอนีสีชมพูเป็นสัญลักษณ์แห่งความหอม จุดเด่นของกลิ่นนี้อยู่ที่การผสมผสานกลิ่นละเอียดอ่อนของดอกคาร์โมมายด์ที่ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลายกับดอกไม้ที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิงอย่าง    ออเรจบลอสซั่มและ ไลแลค ความหอมหวานทั้งมวลนั้นถูกรวมเข้ากับน้ำผึ้ง เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นที่เป็นดั่งตัวแทนของ ‘ที่รัก’ อย่างแท้จริง

Comfort Luxury Nature_Glamorous

 

แกลมเมอรัส (Glamorous)

กลิ่นกุหลาบอันแสนคลาสสิคคือตัวแทนของความมีเสน่ห์ที่มาพร้อมความเย้ายวนใจนับเป็นจุดเด่นของกลิ่นแกลมเมอรัสในชั้นท็อปโน้ตก่อนเติมเต็มความหอมหวานยิ่งขึ้นด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่แทรกอยู่ในทุกมิติของกลิ่นหอม ไม่ว่าจะเป็น เจอราเนียม คาร์เนชั่น ในชั้นมิดเดิลโน้ต ก่อนตบท้ายด้วยความหอมอันลุ่มลึกของ แซนเดิลวู้ด นับได้ว่าเป็นกลิ่นหอมแบบ Sensational ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับในการสร้างเสน่ห์ให้สาวๆ ได้เป็นอย่างดี

Comfort Luxury Nature_Elegance

เอเลแกนซ์ (Elegance)

ดอกเจราเนียมสีทองคือตัวแทนของความหอมแบบหรูหรามีระดับ ที่แฝงด้วยกลิ่นอายของความน่าค้นหาอันตราตรึงของกลิ่นเอเลแกนซ์ที่มีจุดเด่นจากการนำความหอมสดใสของผลไม้หลากชนิดเช่น พีช ราสป์เบอร์รี่ และ  แบล็คเคอเรนท์ มาแต่งแต้มสีสันให้กลิ่นของท็อปโน้ต ก่อนเติมความหอมหวานชั่วนิรันดร์อย่างกลิ่นมะลิ และเสริมความนุ่มนวลด้วยความหอมของ วานิลลา มัสก์ อำพัน ได้มาซึ่งเสน่ห์หอมที่ชวนหลงใหลแบบไม่รู้ลืม

IMG_1544

ประวัติ โจแอนนา โมแนง (Johanna Monange) นักปรุงน้ำหอมชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงระดับโลก

รองประธานบริษัท International Flavors & Fragrances Inc. และ Singapore Creative Center Director

คุณโจแอนนา ผู้มีประสบการณ์คร่ำหวอดอยู่ในวงการน้ำหอมมากกว่า 20 ปี ทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในสาขาน้ำหอมประเภท Fine Fragrance (น้ำหอมระดับพรีเมี่ยมตามเคาน์เตอร์แบรนด์และสปา)

ผลงานล่าสุดที่โดดเด่นภายใต้การควบคุมของโจแอนนา ได้แก่

“Lancome La Vie est Belle (ยอดขายเป็นอันดับที่สองในตลาดยุโรป), Armani Aqua di Gioia, YSL Manifesto, YSL L’Homme, La Nuit de L’Homme, V&R Flower Bomb and Spices Bomb, Diesel Only the Brave, ….”

ในปี 2014 โจแอนนาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารของ IFF Asia Creative Centre of excellence ประจำตำแหน่ง ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเธอเองต้องบริหารจัดการทีมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ จำนวนกว่า 100 คน อันได้แก่ นักปรุงแต่งน้ำหอม นักวิจัย นักพัฒนาน้ำหอม ผู้จัดการการดีไซน์น้ำหอม เป็นต้น โดยจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของตลาดผู้บริโภครวมไปถึงความต้องการของลูกค้าชาวต่างชาติในทวีปเอเชีย

ก่อนหน้าที่โจแอนนาจะมาร่วมงานกับ IFF เธอได้เคยทำงานให้กับบริษัทน้ำหอมชื่อดังสัญชาติสวิสอย่าง Firmenich โดยดูแลลูกค้า อาทิ Puig Group ที่นั่นเธอได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาน้ำหอมสูตรพิเศษให้กับน้ำหอมยี่ห้อ Paco Rabanne One Million ซึ่งเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชายที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งของตลาดน้ำหอมแบรนด์เนมในยุโรป

นอกจากนี้ คุณโจแอนนายังดำรงตำแหน่งเป็น Creative Center Manager ของบริษัทน้ำหอมชื่อว่า Mane ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยดำรงตำแหน่งนานกว่า 4 ปี ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 2000 เธอได้รังสรรค์ธนาคารน้ำหอมแห่งแรกที่ถูกปรับให้เข้ากับรสนิยมของผู้บริโภคชาวจีน

คุณโจแอนนาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก University of International Business and Economy กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เธอยังสำเร็จการศึกษาจาก Ecole Superieure de Commerce จากประเทศฝรั่งเศส และ Foothill College จากลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนียอีกด้วย เธอสามารถสื่อสารได้หลายภาษา ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน และ ภาษาอังกฤษ

สำหรับสื่อมวลชน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท รพินท์นิภา จำกัด        (ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ น้ำยาปรับผ้านุ่ม คอมฟอร์ท ลักเชอรี่ เนเชอร์)

รพินท์นิภา เกียรติธนฉัตร์     โทร.089-500-6913        
นันท์นภัส สุขปรีดี                   โทร.086-636-2493

You may also like...