เรียนด้านออกแบบแฟชั่นยากไหม? ต้องหาแรงบันดาลใจจากแหล่งไหน? จบมาแล้วทำอะไรได้บ้าง? … สารพัดคำถามเหล่านี้ คงเป็นข้อสงสัยของใครๆที่ยังค้นหาคำตอบก่อนเลือกเดินในเส้นทางสายนี้ ทว่าสำหรับนิสิตสาขาออกแบบแฟชั่นอย่าง “ชมพู” ภัทรนันท์ เหมือนเธอจะตอบคำถามพื้นฐานทั้งหมดนี้ได้แล้ว
สาวสุดติสท์ จึงฝากเป็นข้อคิดว่า ความชอบในสิ่งที่เรียนอย่างเดียวไม่พอ ต้องขยันอดทนและมีความคิดสร้างสรรค์ด้วย อย่าเรียนเพียงเพราะตามเพื่อนตามกระแส เพราะบางครั้งมันยังมีสิ่งที่เรารู้สึกว่ายากไม่อยากทำ เช่น บางคนถนัดตัดเย็บ พอมาเรียนสเกตซ์อาจจะรู้สึกท้อ หรือต้องใช้เวลาในการทำงานมากกว่าคนอื่น ดังนั้นต้องคิดเสมอว่า การเรียนด้านนี้เป็นสิ่งที่ตัดสินใจเอง ถือว่าจากคนที่ไม่รู้ด้านนี้มาก่อน แต่เราได้คัดเลือกมาอยู่ตรงนี้แล้ว ก้าวมาถึงแล้ว แม้จะยากก็ต้องต่อสู้อดทนพยายามผลักดันตัวเองให้สำเร็จ อะไรที่ยังไม่รู้ไม่ถนัด ก็อาศัยเวลาฝึกฝนเรียนเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ
อีกสิ่งที่สำคัญ คือ “ทุกอย่างในชีวิต สามารถเก็บเป็นแรงบันดาลใจได้ทั้งหมด” นักออกแบบรุ่นใหม่เผย และอธิบายว่า โดยส่วนตัวเธอชอบเรื่องราวความจริง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ภาวะโลกร้อน ปัญหาความยากจน ความลำบาก แม้กระทั่งความแตกต่างของฐานะวัฒนธรรม “เรื่องจำพวกนี้อาจดูหนัก แต่ก็โดดเด่นคิด ซึ่งเราก็สามารถจะเอามาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าได้ หากถามว่าจำเป็นไหมที่นักออกแบบต้องติดตามข่าวสารประเภทนี้ ก็ไม่รู้จะตอบว่าจำเป็นรึเปล่า แต่คิดว่าการที่นิสิตนักศึกษารู้มากก็ย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่น”
สาวน้อยชมพู ยังแสดงมุมมองระหว่างวงการออกแบบต่างประเทศกับไทยว่า “เมืองนอกอาจจะได้เทคโนโลยีกว้างไกลกว่าก็เลยมีโอกาสมากขึ้นไปด้วย กล้าทำอะไรแปลกๆแม้จะดูบ้าๆบอๆในสายตาคนอื่น แต่มันก็ฉีกตัวเองออกมาเป็นสิ่งที่น่าสนใจได้ ส่วนนักออกแบบไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยกล้าทำ หรืออาจจะมองแค่ความสวยงาม มีรูปแบบที่ตามๆกันมากเกินไปยังไม่พลิกแพลงนัก อย่างไรก็ตามคนไทยก็มีอะไรน่าสนใจนำมาสู่การออกแบบที่ดีได้ เช่น เรื่องไทยๆก็เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ถ้านำมาเสนอให้คนไทยและต่างประเทศได้ชม โดยไม่ยึดติดกับความเป็นต่างชาติมากไปว่า ลอนดอนเจ๋ง โตเกียวดี ก็จะรู้ว่าไทยก็มีดีไม่แพ้ชาติใด ทั้งนี้ต้องลองหันมามองตัวเองแล้วนำเสนอออกไปสู่สายตาสากล และคนไทยก็เป็นดีไซเนอร์ที่ประสบความสำเร็จหลายคนไปแล้ว”
สาวนักออกแบบสุดแนวรายนี้กล่าวต่อไปว่า หากถามความเป็นนิยามของตนเองด้านการออกแบบ คงเป็นนักออกแบบประเภทชอบสิ่งที่แตกต่าง ไม่จำเจ อยากมีผลงานออกแบบประเภทเสียดสีสังคม ซึ่งยังคงนำเสนอในรูปแบบการวาดภาพประกอบแฟชั่น เพราะชอบวาดรูปมากที่สุด โดยใช้เทคนิคหลากหลาย ได้แก่ คอนทัวร์ คอลลาจ ใช้สี copic รวมถึงการใช้คอมพิวเตอร์
“อยากทำงานเสียดสีสังคม เพราะต้องการให้คนได้เห็นความจริงอีกด้าน คนส่วนใหญ่อาจจะชอบงานออกแบบที่เป็นเรื่องสวยๆงามๆ เช่น นางฟ้า สวน ดอกไม้ แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆที่อยู่ในสังคมก็ไม่ควรมองข้ามไป ถือเป็นความสวยอีกแบบที่เราสามารถนำมาสร้างเป็นผลงานศิลปะได้”
มีแรงบันดาลใจอยู่รอบๆ ตัวเสียขนาดนี้ หลายคนคงอยากรู้ว่าศิลปินนักออกแบบที่ชมพูคือใคร ซึ่งสาวเจ้าตอบเต็มเสียงว่า “Samantha Beeson” คือ แรงบันดาลใจที่ดีของเธอ
“Beeson เป็นนักเขียนภาพประกอบแฟชั่นที่มีความเด่นในผลงานด้านเสียดสีสังคมเช่นกัน ซึ่งคล้ายกับผลงานที่ชื่นชอบ โดยผลงานของ Beeson ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่มองว่า ต้องมีกระบวนการคิดที่ดี และศิลปินนักวาดชาวไทยที่ชื่นชมผลงานมาตลอดคือมล.จิราธร จิรประวัติ ผู้เขียนภาพประกอบนิตยสารชื่อดัง”
ชมพูมองถึงอนาคตของการสร้างผลงานสู่เชิงธุรกิจว่า ตอนนี้เธอมีเพียงรายได้เล็กๆน้อยๆจากการสอนพิเศษด้านการออกแบบ เขียนภาพสเก็ตซ์ให้น้องๆที่สนใจ แต่สำหรับรายได้จากผลงานโดยตรงนั้น คงต้องอาศัยประสบการณ์อีกระยะหนึ่งเพื่อฝึกฝนฝีมือ และสร้างผลงานตนเองให้ได้ในจำนวนมากเสียก่อน
“อนาคตอยากทำอะไรหลายอย่าง มองว่าคนเราเกิดมาก็มีหลายด้านที่สนใจ สำหรับนิสิตนักศึกษาในสาขาออกแบบก็คงอยากเป็นดีไซเนอร์ มีแบรนด์เป็นของตัวเอง อาจจะอยากมีงานแฟชั่นโชว์ใหญ่ๆที่ตัวเองดูแล แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าความโด่งดังไม่ได้สำคัญมากนัก ขอแค่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และเลี้ยงตัวเองได้ ก็พอใจแล้ว เช่น เปิดร้านเล็กๆ ได้วาดรูปได้ออกแบบ ก็คงเป็นความสุขที่ไม่น้อยไปกว่าคนอื่น” สาวดีไซน์รั้วเทา-แดงทิ้งท้าย
ขอบคุณที่มาจาก http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9530000047397