ศิลปินระดับโลกหลายคนอาจไม่ได้เป็นที่รู้จักเท่ากับ ดาร์ลี โกแกง ปิกัสโซ หรือแวนโก๊ะ แต่ตลอดช่วงชีวิตอันเข้มข้นของพวกเขาได้ฝากผลงานไว้ประดับโลกมากมาย
หากเอ่ยถึง Szukalski ศิลปินคนสำคัญในศตวรรษที่ 19 จะมีกี่คนที่รู้จักทั้งตัวเขาและผลงาน เพราะผลงานที่น่าตื่นตะลึงกว่าสองร้อยชิ้นเหล่านั้นถูกพวกนาซีเยอรมันทำลายล้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ปี 1893 Stanisław Szukalski ถือกำเนิดขึ้นที่ Gidal เมืองเล็กๆในประเทศโปแลนด์ พ่อและแม่ของเขาปล่อยให้เขาใช้ชีวิตตามใจชอบ เขาเริ่มแกะสลักและทำงานศิลปะได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยแกะสลักของเล็กๆให้กับเด็กผู้หญิงที่เขาชื่นชอบ พวกผู้หญิงเหล่านั้นจึงเรียกเขาว่า ประติมากร ตั้งแต่นั้นมาความฝัน Szukalski คือการได้เป็นประติมากร
เมื่อเขาอายุ 12 ขวบ Szukalski และครอบครัวย้ายมาอยู่ที่ชิคาโก พ่อของเขาได้งานเป็นช่างตีเหล็กที่โรงงาน ภาพวาดหลายภาพในเวลาต่อมาเป็นภาพพ่อของเขา สื่อให้เห็นว่า Szukalski รักพ่อของเขามากเพียงใด
ความเป็นอัจฉริยะเริ่มฉายแววชัดขึ้นเมื่อเขาไปโรงเรียนและมีความคิดประดิษฐ์อักษรใช้เอง ครูใหญ่จึงเรียกพ่อของเขาไปพบเนื่องจากลูกชายไม่ปฏิบัติตามกฎ แต่พ่อเขาได้โต้แย้งครูไปว่า ถ้าสิ่งที่ลูกของเขาทำมันผิดกฎหมายค่อยว่ากัน จนกว่าจะถึงวันนั้นลูกผมจะไม่เปลี่ยน และตลอดชีวิตที่ผ่านมา Szukalski ใช้อักษรแบบนี้ตลอดชีวิต
อัจฉริยะเริ่มฉายแววชัดขึ้นเมื่อเขาอายุ 14 เขาได้แกะสลักงานในสถาบันชิคาโก ประติมากรที่เห็นผลงานจึงแนะนำให้ส่งเขาไปยุโรป ที่เมืองคราคราวศ์ ประเทศโปแลนด์ (Cracow Poland) เขาสอบเข้าโรงเรียนศิลปะ Cracow แต่ศิลปินหัวขบถคนนี้ก็ได้ทะเลาะกับศาสตราจารย์เหตุเพราะไม่ยอมปั้นงานจากโมเดล ด้วยความคิดที่ว่า หากคุณต้องการที่จะสร้างสิ่งใหม่ในโลกนี้ คุณจะต้องไม่เคยฟังคำสอนจากใคร และจะต้องยึดติดกับความคิดของตัวเองด้วยความรู้ความสามารถทั้งหมดตั้งแต่ปลายนิ้ว เขาจึงลาออกจากโรงเรียนกลางคันด้วยความคิดที่ว่าโรงเรียนมักบิดเบือนความเป็นตัวตนของเราตั้งแต่เราเป็นทารก และปรับเปลี่ยนคนทุกคนให้กลายเป็นคนธรรมดา
ปี 1922 เขาแต่งงานกับ เฮเลน วอลค์เกอร์ ลูกสาวศัลยแพทย์ที่ร่ำรวย เขามีลูกสาว 1 คน แต่ไม่นานทั้งคู่ก็หย่าขาดจากกัน เมื่อเขาพบรักกับครูโรงเรียนอนุบาลและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด 50 ปี โดยที่ไม่เคยทะเลาะกันเลย
Szukalski เชื่อมั่นในตัวตน เขาศึกษาศิลปะด้วยตนเอง ได้จัดแสดงงานศิลปะหลายครั้งและประสบความสำเร็จอย่างมาก และได้สร้างผลงานอันน่ามหัศจรรย์มากมายไว้ที่โปแลนด์
แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 คุกรุ่นขึ้น ในปี 1939 ที่เมืองวอร์ซอ หนึ่งในห้าของเมืองถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิด มีผู้เสียชีวิต 25,000 คน สตูดิโอถูกระเบิดกองทัพ ภาพวาดและประติมากรรมทั้งหมดของเขาจากบรอนซ์ถูกทำลาย ทุกอย่างถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ประติมากรรมร้อยกว่าชิ้น ภาพเขียนภาพวาดร้อยกว่ารูปที่ได้ถูกทำลายไปหมด ถึงแม้ผลงานบางส่วนจะอยู่ในมือของนักสะสม แต่ผลงานก่อนสงครามส่วนใหญ่ได้สูญหายและถูกทำลาย
เขาและภรรยาเดินทางกลับอเมริกามีเพียงกระเป๋าเดินทางสามใบ พวกเขามีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก เขาทำงานออกแบบที่ร็อคเกรตเดน และทำงานในโรงงานกระป๋อง ตลอดสี่สิบปีเขาไม่ได้แกะสลักผลงานอะไรเลย ไม่มีห้องสตูดิโอ ไม่มีวัสดุและไม่มีเงิน แต่ระหว่างนั้นเขาได้ทำการเขียนหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาตร์ของมนุษยชาติ และวาดภาพประกอบไว้กว่า 40,000 ภาพ
ในปี 1980 ภรรยาที่เขารักมากที่สุดเสียชีวิตด้วยโรคถุงลมโป่งพอง นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สุดในชีวิต ไม่นานเขาก็เข้าโรงพยาบาลและมีอาการอัมพาตครึ่งตัวด้วยโรคหลอดเลือดสมอง และจากโรคนี้ไปในวัย 93 ปี ทิ้งไว้เพียงผลงานประดับโลกที่ยิ่งใหญ่ Szukalski ผู้ถูกล้อมรอบไปด้วยชัยชนะ ความรัก ความฝัน และความรุ่งโรจน์ ไม่ต่างจากไมเคิล แองเจโล
ช่วงชีวิตของ Szukalski
– Szukalski ศึกษากายวิภาคจากศพพ่อของเขาเอง
– เขาเป็นศัตรูกับนักวิจารณ์ศิลปะ Szukalski บอกว่าพวกเขาไม่ต่างจากปรสิตที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
– รัฐมนตรีฟิซเซอร์แห่งนาซีเยอรมันเสนอให้เขาสร้างอนุเสวรีย์ของฮิตเลอร์และเกอริง
– เป็นศิลปินที่มีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รัฐบาลโปแลนด์ทำห้องสตูดิโอให้เขาและประกาศเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Szukalski
อ้างอิง : สารคดี Struggle : The Life and Lost Art Of Szukalski