วีระ แซ่อึ้ง

‘สมัยนี้ต้องใช้เงินเป็นหลักในการทำโปรดักชั่น แต่ถ้าเราลงตัวในส่วนของเม็ดเงินและทำได้ดีก็ไม่มีปัญหา’

ศิลปินนักบริหารซึ่งเปรียบตนเองประหนึ่งนักมายากล วีระ แซ่อึ้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิตอล เมจิก เอฟเฟ็ค เฮาส์ จำกัด สร้างผลงานด้วยเทคนิคพิเศษจาก 3D แอนนิเมชั่น เปิดมิติใหม่แห่งวงการภาพยนตร์โฆษณา มิวสิควิดีโอ ฯลฯ ในวันที่เป็นทั้งผู้บริหารและศิลปินผู้สร้างงาน ย่อมมีหลายสิ่งให้ได้ครุ่นคิด แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นบทบาทใดก็คือใจรักและความทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงานแปลกใหม่ออกสู่สายตาผู้ชมในทุกชิ้นงาน  

“3D แอนนิเมชั่นมันก็คือศิลปะแขนงหนึ่งนะครับ คือการประยุกต์ศิลปะเข้ากับเทคโนโลยี เป็นส่วนหนึ่งของการผลิตภาพยนตร์แต่เป็นภาพยนตร์โฆษณา โดยในส่วนของโปรดักชั่นในการผลิต แน่นนอนอยู่แล้ว สมัยนี้ต้องใช้เงินเป็นหลักในการทำโปรดักชั่น แต่ถ้าเราลงตัวในส่วนของเม็ดเงินและทำได้ดีก็ไม่มีปัญหา

“ฝรั่งเขาบอกว่า Don’t rush art ก็คือว่า อย่าไปเร่งเวลากับงานศิลปะ ถ้างบประมาณน้อยการที่เราใช้คนในการทำงานมันจะน้อยลงไปด้วย…เหมือนก๋วยเตี๋ยวแหละ ให้เงินสิบบาทฉันก็ให้ได้เท่านี้ ลูกชิ้นสองลูก หมูแดงสามชิ้น จบ แต่ที่ผมดูแลเราไม่ได้แคร์ตรงงบฯ เสมอไป ถ้าเรารับงานแล้วงานจะต้องออกไปตามมาตรฐานของมันที่มีอยู่ เรื่องเงินจะไม่เข้ามาเกี่ยวในระหว่างทำงาน”

“เรียกได้ว่าเป็นศิลปินแขนงหนึ่งเลยนะครับ ถ้าพูดถึงศัพท์ที่เราใช้บ่อยก็เป็นดิจิตอลอาร์ต คือคิดโดยใช้จินตนาการในการทำศิลปะโดยดิจิตอล และอาร์ตก็คือเราใช้ Sense ต่างๆ ภาพที่เราคิดอยู่ในหัวเราใช้สิ่งนี้คิดออกมา สร้างออกมา นี่คือดิจิตอลอาร์ต”

“ข้อดีของมันคือไม่ได้จำกัด แต่มันช่วยให้คอนเซ็ปต์เรากว้างขึ้น เมื่อก่อนนี้เราคิดสตอรี่บอร์ดขึ้นมาอาจจะถูกจำกัดด้วยงบประมาณและโปรดักชั่นในการผลิต แต่พอมีส่วนของคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเข้ามาทำให้เราคิดไปได้ไกลมากขึ้น ยกตัวอย่างเรื่องราวที่มีตึกพังลงมา ถ้ามาทำเองเป็นไปไม่ได้ แต่เทคนิคทำให้เราทำได้”

“มันคงคล้ายๆ กับบริษัทโครงสร้างนะ ผมมองว่าภาพนี้มันเป็นเมจิก ผมเรียกว่าดิจิตอลเมจิก เอฟเฟคต์เฮาส์ เพราะว่ามันเป็นภาพดิจิตอล เมจิกคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา เนรมิตขึ้นมา มันอยู่ที่จินตนาการ แล้วก็ใช้ดิจิตอลผลิตขึ้นมา ผมมองว่าการใช้ดิจิตอลเมจิกก็เหมือนกับว่าเราเป็นนักมายากล เสกให้คนหายไป วัวโผล่มาก็ว่าไป เราเป็นนักมายากลที่สร้างภาพมาให้คนดู”

***************************************
ที่มา : นิตยสาร Hi-Class Magazine