การเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือที่เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 คือ การปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทยจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยคณะราษฎร เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475
ประกอบด้วยบุคคล 2 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มนักเรียนไทยในต่างประเทศ และกลุ่มนายทหารในประเทศไทย บุคคลทั้งสองกลุ่มนี้มีพื้นฐานการศึกษาที่คล้ายคลึงกัน จากการได้ไปศึกษาวิชาชีพจากประเทศตะวันตก ทำให้ได้ใกล้ชิดกับการปกครองของประเทศที่ตนไปศึกษา คือ ได้สัมผัสกับบรรยากาศการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเห็นความเจริญก้าวหน้าจากการที่ประชาชนในยุโรปตะวันตกมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ จึงมีความคิดว่าตนควรจะมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศด้วย คณะราษฎรจึงได้วางแผนกระทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้น โดยมีความมุ่งหวังของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ที่จะสร้างระบอบประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญเป็นหลักในการปกครองประเทศ (ซึ่งจากที่ประชุมการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2467) โดยได้กำหนดไว้ 3 ข้อด้วยกัน คือ
ประการแรก ได้วางรากฐานประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และปฏิเสธการสถาปนาสาธารณรัฐโดยเด็ดขาด
ประการที่สอง กำหนดการเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วยการยึดอำนาจ เพื่อเปลี่ยนจาก สมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบบที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การจลาจลนองเลือด ให้งดเว้นการทำทารุณใดๆ ทั้งสิ้น
ประการที่สาม ให้ตั้งอยู่ในสัจจะ เสียสละเพื่อประเทศชาติ เว้นการหาประโยชน์สร้างตนเองโดยเด็ดขาด
หลังจากนั้นคณะราษฎรยังได้ประกาศนโยบายการปกครองที่จะพึงกระทำ คือ จะต้องจัดวางโครงการโดยอาศัยหลักวิชาการ ซึ่งหลักใหญ่ๆ ที่คณะราษฎรวางไว้จะมีอยู่ว่า
1. จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่น เอกราชในทางการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง
2. จะต้องรักษาความปลอดภัยในประเทศให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก
3. จะต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎร ในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก
4. จะต้องให้ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน
5. จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลัก 4 ประการ ดังที่กล่าวข้างต้น
6. จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร
การเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎรสามารถกระทำได้สำเร็จ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเห็นแก่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎร ไม่อยากให้เสียเลือดเนื้อและความเสียหายแก่บ้านเมือง และเนื่องจากพระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว จึงไม่ทรงขัดความปรารถนาของคณะราษฎรที่ได้กราบบังคมทูลเชิญเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๗๕ ได้ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
นับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 79 ปีแล้ว ดังนั้น เพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงสละพระราชอำนาจของพระองค์ให้แก่ปวงชนชาวไทยได้มีสิทธิปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย และเพื่อเป็นการรำลึกถึงวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมกันสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ด้วยการรักษาสิทธิและหน้าที่ของตนเอง โดยการออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่จะถึงนี้ เพื่อเลือก คนดีเข้าสภา และเพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและสร้างสรรค์ต่อไปในอนาคต
——————————————————————————–
ที่มา : สำนักประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม