What ever Happened to Baby Jane? (1962) เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของโรเบิร์ต อัลดริช ( Robert Aldrich) อีกชิ้น นอกเหนือจากภาพยนตร์ Kiss Me Deadly (1955) ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ในแนวฟิล์มนัวร์ที่ดีที่สุดในโลกเรื่องหนึ่ง
What ever Happened to Baby Jane? ( ดัดแปลงมาจากหนังสือ Baby Jane ของเฮนรีฟาร์เรล) เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างราชินีค้างฟ้าของฮอลลีวู้ด 2 คน ซึ่งก็คือโจน โครวฟอร์ด ( Joan Crawford) และเบตต์ เดวิส ( Bette Davis) ดารานักแสดงที่ถือกันว่ามีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด ณ เวลานั้น
ก่อนอื่นคงต้องเท้าความสักนิดหนึ่งว่า เบตต์ เดวิส และโครวฟอร์ด ถือได้ว่าเป็นนักแสดงในระบบสตูดิโอในยุคเริ่มแรก หรืออาจจะเป็นช่วงพร้อมๆ กับการบัญญัติศัพท์คำว่า ‘ ดาราฮอลลีวู้ด ‘ ดังนั้นการมีพวกเธอจดจารึกอยู่ในทำเนียบฮอลลีวู้ดเป็นรายแรกๆ เหมือนเช่นที่เกรท การ์โบเคยได้รับในยุคหนังเงียบ จึงเป็นทั้งประวัติศาสตร์ และวัตถุดิบทางความคิด ซึ่งใช้ขยายต่อเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน What ever Happened to Baby Jane? ได้เป็นอย่างดี
สภาวะตกอับของดาราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวัฏฏะที่เราเรียกรวมๆ ว่า ‘ วงการบันเทิง ‘ What ever Happened to Baby Jane? นำพาเราไปรู้จักกับการเริ่มต้นชีวิตดาราในแบบที่เรียกว่า ฉายแวว ( prodigy) และในแบบที่ต้องดิ้นรนฟันฝ่าอุปสรรคและความทะยานอยาก ( will) ไปจนกระทั่งช่วงเวลาของการถูกลืมเลือน
เบบี้ เจน หรือ เจน ฮัดสัน (เบตต์ เดวิส) เป็นนักแสดงเด็กที่มีชื่อเสียงมาจากการโชว์ร้องเพลง โดยพ่อของเธอเป็นคนเล่นดนตรี เบบี้ เจนนั้นโด่งดังกระทั่งตัวเธอกลายเป็นมาสคอต หรือตุ๊กตาที่มีเธอเป็นต้นแบบจัดจำหน่าย (ในเรื่องตุ๊กตาตัวนี้จึงเป็นเหมือนวัตถุที่มีทั้งความทรงจำหรืออดีตในช่วงวัยเยาว์ของเจนเก็บไว้ภายใน) แต่น่าเศร้าก็คือ ยิ่งเจนประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมของผู้ชมมากเท่าไร แบลนช์ ฮัดสัน (โจน โครวฟอร์ด) น้องของเธอก็ยิ่งตกอยู่ในสภาพที่กดดัน ทั้งที่แบลนช์เป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องการความรักจากพ่อเหมือนพี่สาว ความน้อยเนื้อต่ำใจนั้นจึงกลายเป็นปมลึกๆ ในจิตใจของแบลนช์
เมื่อเวลาผ่านไปดาราเด็กเบบี้ เจน เติบโตขึ้น ความโด่งดังของเธอกลับลดน้อยถอยลง เธอไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้สร้างหรือไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนดู ความเปลี่ยนแปลงจากวัยเด็กสู่วัยสาวทำให้เธอกลายเป็นแค่นักแสดงชั้นสองที่ไม่มีบทบาทโดดเด่นใดตกมาถึง
ตรงกันข้ามกับแบลนช์ จากความตั้งใจและมุ่งมั่น เธอกลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงและกุมหัวใจผู้ชมได้ในชั่ววันข้ามคืน แบลนช์ได้รับบทบาทที่ดีมากมาย เธอเป็นนางเอกที่เป็นที่รักและนิยมชื่นชอบของกลุ่มผู้ชม แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หลังจากงานเลี้ยงคืนหนึ่ง แบลนช์ถูกรถชนจนขาพิการ แล้วชีวิตในวงการบันเทิงของเธอก็หยุดลงแค่นั้น
มีข่าวลือว่าเจนพี่สาวที่ริษยาเธอเป็นคนขับ เจนหายตัวไปหลังจากเหตุการณ์คืนนั้น เธอก็ตกอยู่ในสภาพที่เมามายไม่ได้สติ และถูกพบที่โรงแรมจิ้งหรีดกับชายแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักมาก่อน
หลังเหตุการณ์ผ่านไปหลายปี แบลนช์ในฐานะของดาราหญิงพิการใช้ชีวิตในบั้นปลายอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง โดยมีเจนพี่สาวของเธอเป็นผู้ดูแล เธอจ้างแม่บ้านผิวดำอีกคนคอยช่วยเหลือ
ความมีชื่อเสียงของแบลนช์และความโชคร้ายในชีวิตของเจนน่าจะถูกแช่แข็งไว้ที่บ้านหลังนั้น พี่น้องควรจะใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างเป็นสุข หากการณ์กลับเป็นว่า เมื่อโทรทัศน์นำผลงานที่แบลนช์เคยแสดงกลับมาฉายใหม่อีกครั้ง ความนิยมในแบลนช์ ฮัดสัน ดาวค้างฟ้าของวงการก็กลับมาอีกครั้งในรูปจดหมายที่เขียนมาถึงเธอจำนวนมากมาย
เจนที่เคยตกอยู่ในวังวนของความริษยามาก่อน จึงเริ่มแสดงอาการออกมาให้เห็นว่า เธอนั้นเกลียดชังแบลนช์ทีละน้อย จากการสร้างความกดดันทั้งคำพูดและท่าที ไปสู่การกลั่นแกล้งที่รุนแรงมากขึ้นๆ นกแก้วสัตว์เลี้ยงของแบลนช์ที่เจนอ้างว่ามันบินหายไป ถูกนำมาทำเป็นอาหารให้แบลนช์ แน่นอนเกือบทุกการกระทำของเจนมันสะท้อนให้เห็นความวิกลจริตหรือความวิปลาสที่อยู่ในตัวของเธอ
รุนแรงไปจนถึงขีดสุด กระทั่งเจนกักขังแบลนช์เอาไว้ในห้อง และเธอก็พลั้งมือฆ่าแม่บ้านผิวดำ (ที่จะเข้ามาช่วยแบลนช์) จนถึงแก่ความตาย
ตลอดทั้งเรื่องเราในฐานะของผู้ชมจะรู้สึกว่า แบลนช์เป็น ‘ ผู้ถูกกระทำ ‘ และเจนก็เป็นแค่ฆาตกรที่อำมหิตและวิปริตมากขึ้นๆ หากจุดคลี่คลายของเรื่อง (ในตอนท้ายสุดที่เจนพาแบลนช์หนีคดีไปพร้อมกับเธอยังชายหาดแห่งหนึ่ง) แบลนช์ได้เฉลยกับคนดู หรือกระทั่งกับเจนที่ดูจะไม่รับรู้ไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้วว่า แบลนช์เองนั่นละเป็นต้นเหตุแห่งอุบัติเหตุทั้งหมด พูดง่ายๆ แบลนช์ทำให้รถชนตัวเธอเอง เพื่อทำลายและแก้แค้นที่เจนได้หักหน้าเธอในงานเลี้ยง
ตอนที่รถชน เจนนั้นเมาจนไม่ได้สติฟุบหลับไปหลังรถ แต่แบลนช์กลับบอกกับทุกคนว่าเป็นฝีมือเจน แน่นอนเธอแสร้งทำเป็นให้อภัยเจนทั้งที่เจนไม่ได้ทำ นั่นเป็นบทบาทที่เธอเล่นตลอดระยะเวลาผ่านมาหลายต่อหลายปี ถึงจุดนี้เองเราจึงได้เห็นว่า ‘ ผู้ถูกกระทำ ‘ น่าจะเป็นเจนมากกว่า เธอเป็นหญิงที่โชคร้าย ซึ่งวิกลจริตไปก็เพราะเธอแบกรับความเชื่อว่าเธอเป็นคนทำให้น้องของเธอพิการ
หากไม่นับว่าสิ่งที่ What ever Happened to Baby Jane? นำเสนอแก่ผู้ชมเป็นความจริงที่เกิดกับวงการบันเทิงฮอลลีวู้ดแล้วนั้น สิ่งอยู่นอกเหนือละครชีวิต หรือปมเขื่องปมด้อยของสองพี่น้องฮัดสัน ก็คือ ‘ อาการเมาชื่อเสียง ‘ ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน ตั้งแต่คนที่เชื่อว่าตัวเองไร้ความสำคัญอย่างที่สุด หรือกระทั่งคนของประชาชน และนี่คือความเมาแบบที่คนไม่ค่อยได้พูดถึงกัน
