Elvis Presley

เอลวิส เพรสลีย์ ราชาร็อคแอนด์โรลระดับโลก
หากเราเคยรัญจวนใจไปกับบทเพลง Love Me Tender และหัวใจเต้นแรง มือไม้ แข้งขาขยับ พร้อมที่จะโลดแล่นไปกับเพลง Hound Dog แล้วล่ะก็ แน่นอน ! เรายังคงหลงรักเขาอยู่ เอลวิส เพรสลีย์

8 มกราคม 1935 เอลวิส แอร์รอน เพรสลีย์ ลืมตาดูโลกในบ้านแคบๆที่ทูพีโล มิสซิสซิปปี้ พร้อมกับพี่น้องฝาแฝด เจสซี แกร็อน เพรสลี น่าเสียดายที่เจสซี แกร็อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากครอบครัวของเขามีเงินไม่เพียงพอสำหรับโรงพยาบาล นี่เป็นเรื่องที่เอลวิสจดจำฝังใจเรื่อยมา เขาเกิดมาในครอบครัวชาวใต้ผิวขาวที่ยากจน แต่พ่อกับแม่ของเขาก็ทำทุกวิถีทางที่จะให้เอลวิสมีชีวิตที่ดีขึ้น เขาจึงเป็นเด็กที่รักพ่อและแม่มาก แม้ในวัยเด็กเอลวิสจะเป็นคนขี้อาย แต่เขาก็เป็นนักร้องเสียงดีประจำโบสถ์  ในวัย 15 ปี เอลวิสยังทำงานหาเงินช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง แม้กระทั่งเป็นคนขับรถบรรทุก หนทางการก้าวขึ้นสู่ความเป็นบุคคลระดับโลกนั้น เอลวิสย่อมไม่ต่างจาก หลุยส์ อาร์มสตรอง หรือ ไมเคิล แจ็คสัน นั่นคือการค้นพบสิ่งที่ตนเองชอบ รักที่จะทำมันอย่างเต็มที่ ต่อเนื่อง และทำงานหนักตลอดชีวิต

จากนักร้องประจำโบสถ์ กลายมาเป็นนักร้องประจำโรงเรียน พรสวรรค์ของเขาทำให้ครูใหญ่และครูประจำชั้นบอกกับพ่อแม่ของเขาว่าเขามีน้ำเสียงและความสามารถที่ควรให้การสนับสนุน ปี 1951 เอลวิสเข้าประกวดร้องเพลงในงานแอละบามา มิสซิสซิปปี้ ตามคำแนะนำของครู เขาร้องเพลง Old Shep ที่แม่ของเขาชอบ ต่อหน้าผู้ฟัง 5,000 คน และชนะการประกวดนั้น พ่อของเขาจึงตกลงใจซื้อกีตาร์ให้ลูกชาย ในปี 1952 เอลวิสไปอัดแผ่นเสียง โดยใช้เงินของตนเอง จากนั้นปีต่อมาครอบครัว เพรสลีย์ ได้ย้ายจากเมืองทูพีโล มิสซิสซิปปี้ ไปอยู่ที่เม็มฟิส เทนเนสซี เอลวิสเข้าไฮสคูลที่โรงเรียนฮิวมส์  และจอร์จ ไคลน์ เพื่อนร่วมโรงเรียนชักชวนให้เขาไปร้องเพลงออกอากาศทางวิทยุ WKEM เขาร้อง Cold, Cold, Icy Fingers ผู้ฟังได้โทรศัพท์เข้ามาที่สถานี บอกว่าอยากจะฟังเสียงของเขาอีกในโอกาสต่อไป

ปี 1954 แผ่นเสียงแผ่นแรกของเอลวิสในตราของบริษัทซัน ออกจำหน่าย โดยเปิดครั้งแรกที่สถานี WHBQ ชื่อเพลง That’s All Right, Mama แผ่นเสียงนี้ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอาทิตย์เดียวเท่านั้น กระทั่งในปี 1955 เอลวิสได้ย้ายมาอยู่กับบริษัทอาร์ซีเอ และเริ่มออกรายการทีวี แผ่นเสียงของเขาขายดีแผ่นแล้ว แผ่นเล่า ความโชคดีอีกอย่างของเอลวิส นั่นคือการได้พบกับ ผู้พันทอม ปร์คเกอร์ ผู้จัดการส่วนตัวของเขาซึ่งเขากับผู้พันเข้ากันได้เป็นอย่างดี หนทางทางในการก้าวขึ้นสู่ความเป็นราชาร็อคส่วนนึงเกิดจากแรงผลักดันของผู้พันคนนี้นี่เอง

เอลวิส เพรสลีย์  มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่หลงไหลคลั่งไคล้ของสาวๆ เนื่องจากเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี ที่มีบุคคลิกเงียบขรึมและขี้อายเวลาอยู่ห่างจากไมคโครโฟน แต่กลับร้อนแรง น่าค้นหา และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดเมื่ออยู่บนเวทีการแสดง นี่คือเสน่ห์ที่ทำให้เขาเป็นที่หลงรักและจดจำตลอดมา ในปี 1956 เขาได้แสดงหนังเรื่องแรก Love Me Tender ออกฉายที่นิวยอรค์ แน่นอนว่าโรงหนังแออัดยัดเยียดไปด้วยผู้ชมจาก 3 รัฐที่มาออกันอยู่หน้าไทมส์สแควร์ เพื่อรอชมภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาที่นั่น

และในที่สุดความฝันอีกอย่างนึงของเขาก็เป็นจริง เอลวิสต้องการให้ครอบครัวของเขาสุขสบาย  ปี 1957 เขาได้ซื้อบ้านเกรซแลนด์ เพื่อให้พ่อกับแม่ของเขาอยู่ แต่ต่อมาอีกไม่นานหลังการถูกเกณฑ์ทหารในปี 1958 แม่ของเขาได้เสียชีวิตลง นี่คือการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา หลายคนพูดว่า ถ้าแม่ของเขายังอยู่ จุดจบของราชาเพลงร็อคระดับโลกอาจไม่เป็นเช่นนี้

หลังจากนั้นไม่นานในโบลิยู ที่เยอรมันนี เขาได้พบกับพริสซิลลา และตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องแต่งงานกับเธอ ในปี 1967 ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันที่ลาสเวกัส ปีต่อมา ลิซ่า มารีเพรสลีย์ ถือกำเนิดขึ้น เอลวิสมีความสุขมาก กระนั้นก็ตามผู้หญิงน้อยคนนักที่จะสามารถใช้ชีวิคคู่ร่วมกับซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกได้ สิ่งที่พริสซิลลาต้องการคือชีวิตแบบคนธรรรมดาทั่วไป ซึ่งเอลวิสไม่สามารถให้เธอได้ ในที่สุดทั้งคู่จึงหย่าขาดจากกัน เอลวิสเสียใจมาก สุขภาพของเขาเสื่อมโทรมลง ตลอดชีวิตที่ผ่านผู้หญิงมามากมายของเขาดูเหมือนจะมีแค่ ลินดา ทอมป์สัน เท่านั้นที่สามารถทนชีวิตในแบบของเขาได้ แต่คนที่เอลวิสรักมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ พริสซิลลา เพรสลีย์

ปี 1970 บริษัทอาร์ซีเอ ประกาศว่าเอลวิสเป็นนักร้องที่ทำเงินให้มากที่สุดตลอดกาล และแผ่นเสียงของเขาขายไปได้แล้วกว่า 275 ล้านแผ่น ท่ามกลางความโด่งดังและร่ำรวยมหาศาลนั้น ปฎิเสธไม่ได้ว่ามีแต่คนที่จ้องจะหาผลประโยชน์จากเขา ในปีเดียวกันนี้ เอลวิสถูกฟ้องว่าเป็นพ่อของเด็กในท้องผู้หญิงที่ชื่อ แพ็ตริเชีย ปาร์คเกอร์ แต่เขาได้พิสูจน์ในศาลได้ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ชีวิตของเขาถูกคุกคามตลอดเวลา เอลวิสและบอดี้การด์ทุกคนของเขาจึงได้รับอนุญาตให้พกปืนไปไหนมาไหนได้

ปี 1972 เอลวิสไปเปิดการแสดงที่นิวยอร์คเป็นครั้งแรกที่เมดิสัน สแควร์การ์เด้น รายการทางทีวีของสถานีเอ็นบีซีของเอลวิสมักทำสถิติใหม่เสมอ ปี 1973 รายการนี้ถูกถ่ายทอดผ่านดาวเทียมไปทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ ถ่ายทำที่ฮาวาย และเป็นรายการการกุศลเพื่อมูลนิธิโรคมะเร็ง และในปี 1976 เมื่ออเมริกาอายุครบรอบ 200 ปี เอลวิสเป็นคนหนึ่งที่ได้รับเกียรติว่าเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ

และในเช้าของวันที่ 16 สิงหาคม  ปี 1977 ข่าวที่สร้างความตื่นตกใจและอาการช็อคไปยังแฟนเพลงทั่วโลก เมื่อพบว่าเอลวิส เพรสลีย์ เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ภายในบ้านพักของตนเอง ในวัยเพียง 42 ปีเท่านั้น เมื่อแพทย์ผ่าศพเพื่อชันสูตร จึงพบว่าระบบอวัยวะภายในและเส้นโลหิตต่างๆของเอลวิส ควรจะเป็นของคนแก่วัย 80 ปี ท่ามกลางความโด่งดังขนาดนี้ คนๆนึงต้องแลกกับอะไรมาบ้าง แน่นอน หนึ่งในนั้นคือการทำงานหนัก ความกดดันจากตัวเองและคนรอบข้าง การสูญเสียอิสรภาพหลายๆอย่างในชีวิต ประกอบกับความเจ็บป่วยที่ยากเยียวยา แต่สิ่งที่มนุษย์อย่างเอลวิส เพรสลีย์  ทิ้งไว้ให้พวกเรา คือ ความทรงจำ โลกไม่อาจลืมได้ว่าครั้งนึงเสียงเพลงของเขาได้ทำให้คนหลายล้านหลายแสนคนมีความสุขความสบายใจแค่ไหน

ทุกๆปีแฟนเพลงหลายล้านหลายแสนคนต่างหลั่งไหลไปที่ คฤหาสน์เกรซแลนด์ ณ หลุมฝังศพเมืองเมมฟิส ประเทศสหรัฐอเมริกา อันเป็นบ้านเกิดของ เอลวิส เพรสลีย์ เพื่อร่วมจัดงานรำลึกและไว้อาลัยให้แก่เขา เราต่างทราบกันดีว่า เอลวิส เพรสลีย์ จะคงอยู่เป็นตำนาน เป็นความทรงจำของแฟนเพลงที่รักเขาตลอดไป

เราไม่เคยมีใครเหมือนเอลวิสมาก่อนหน้านี้ และจะไม่มีใครเป็นเหมือนเขาอีกในวันข้างหน้า……

เรื่องน่ารู้บางประการของบุรุษผู้สร้างตำนาน เอลวิส เพรสลีย์  นักทำลายสถิติ
-ปี 1975 อาร์ซีเอ ประกาศว่า เอลวิส เป็นคนเดียวในวงการบันเทิงที่ทำสถิติการขายแผ่นเสียงได้มากที่สุดกว่า 500 ล้านแผ่น
-การปรากฎตัวในการแสดงที่ลาสเวกัสของเขา ซึ่งเริ่มในปี 1969 ทำลายสถิติการจำหน่ายบัตรอย่างสม่ำเสมอทุกครั้ง
-รายการแสดงทางโทรทัศน์ของเขาได้รับความนิยมสูงสุดของโลก โดยเฉพาะรายการ เอลวิส-อโลฮา ฟร็อม ฮาวาย เป็นรายการแรกที่ได้รับการถ่ายทอดผ่านดาวเทียมไปทั่วโลก ซึ่งคนดูจะได้ชมพร้อมๆกันในคราวเดียว มีผู้ได้ชมรายการนั้นกว่าร้อยล้านคนพร้อมกัน
-รายการคอนเสริต์ตามที่ต่างๆของเขาเป็นรายการที่ขายบัตรหมดทุกรอบ เอลวิสจะแสดงเฉพาะในที่ที่มีหลังคาปิดมิดชิดเท่านั้น และบัตรจะจำหน่ายหมดทันทีที่ออกขาย เอลวิสจะไม่เคยแสดงคอนเสริต์ในที่ที่มีที่นั่งว่างแม้แต่ที่เดียว
-Hound Dog เป็นแผ่นซิงเกิ้ลที่ขายได้มากกว่า 7 ล้านแผ่น
-บูล ฮาวาย แผ่นลองเพลย์ซึ่งเป็นเพลงประกอบในภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน จำหน่ายได้มากกว่า 5 ล้านแผ่น

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : Elvis What Happened

TEXT : Tul

 

 

 

You may also like...